🇦🇪 Rub’ Al Khali : 4th Largest Desert on Earth 🇦🇪

…เราคงคุ้นเคยกับว่าซ้ายก็ทะเล ขวาก็ทะเล .. นั่นก็คือเปรียบเปรยถึงชีวิตที่โอบล้อมด้วยภาพของผืนน้ำ เกลียวคลื่น สายลม ที่ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็มีเส้นขอบฟ้าล้อมรอบ 360 องศา ตีกรอบโลกสีน้ำเงินแห่งท้องทะเลท้องมหาสมุทร.. ตัดสลับภาพมายังฝั่งตรงข้ามที่ใช้ประโยคเดียวกันแต่เปลี่ยนเป็น ซ้ายก็ผืนทราย ขวาก็ผืนทราย มองไปทางไหนก็มีแต่ผืนทรายสีทอง สีส้ม สีขาว ที่เปลี่ยนสีเปลี่ยนแสงไปตามสภาพของช่วงเวลาในแต่ละวัน .. ภาพที่ปรากฏคือริ้วรอยของทรายที่ไม่ซ้ำกันในแต่ละวัน ไม่เว้นแม้แต่บางช่วงของเวลาที่มีสายลมเป็นตัวผันเปลี่ยนแนวทรายให้ไม่เคยเหมือนเดิม


• Where is Rub’ Al Khali? •

Rub’ Al Khali (Empty Quarter) .. “รุบอ์ แอล คาลี” ทะเลทรายสุดเวิ้งว้างไกลโพ้นที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของคาบสมุทรอาหรับ ดินแดนที่ครอบคลุมด้วยพื้นที่ถึง 4 ประเทศ ได้แก่ ซาอุดิอาระเบีย / สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ / เยเมน / โอมาน .. กับพื้นที่ทั้งหมดราว 650,000 ตารางกิโลเมตร (250,000 ตารางไมล์) จากพื้นที่ทั้งหมดที่อยู่ในเขตพื้นที่ “ทะเลทรายอาหรับ” ทะเลทรายที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 4 ของโลก

  1. Antartic Polar Desert – 14,244,934 ตร.กม.
  2. Arctic Polar Desert – 13,985,935 ตร.กม.
  3. Sahara Desert – 9,200,000  ตร.กม.
  4. Arabian Desert – 1,855,470 ตร.กม.
  5. Gobi Desert – 1,295,000 ตร.กม.

…ทะเลทรายอาหรับเป็นทะเลทรายที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย และใหญ่เป็นอันดับสี่ของโลก ครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของคาบสมุทรอาหรับ ซึ่งกินพื้นที่ไปถึง 9 ประเทศได้แก่ ซาอุดีอาระเบีย, เยเมน, อิรัก, กาตาร์, จอร์แดน, โอมาน, อิสราเอล, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, คูเวต

…ส่วนพื้นที่ที่ขึ้นชื่ออัลบั้มไว้ตรงนี้คือพื้นที่ที่เรียกว่า “Rub’ Al Khali : รุบอ์ แอล คาลี”  หรือในชื่อภาษาอังกฤษที่ว่า “Empty Quarter” ถ้าอยากรู้ว่าคือพื้นที่ประมาณไหนก็ดูจากแผนที่ตรงที่ผมทำตัวอักษรทับไว้ตรงพื้นที่ฟ้อนท์อักษรนั่นก็คือพื้นที่ของรุบอ์ แอล คาลี (Empty Quarter) นั่นแหละครับ


• Across the Universe at Rub’ Al Khali •

…ภาพบรรยากาศรวม ๆ ของทะเลทรายรุบส์ แอล คาลี…


• Road to Rub’ Al Khali •

…จากท่าอากาศยานนานาชาติดูไบมุ่งหน้าสู่เขต Liwa ส่วนหนึ่งที่ต้องบอกว่าเป็นเพียงติ่ง ๆ ของ Empty Quarter ทั้งหมดด้วยระยะทางประมาณ 300 กิโลเมตร ใช้เวลานั่งรถประมาณ 3-4 ชม. ก็จะถึงพื้นที่ที่เป็นเพียงส่วนหนึ่งส่วนน้อยของ Rub’ Al Khali (Empty Quarter) แต่ก็ต้องบอกว่ากว้างใหญ่ไพศาลมาก

…ภาพระหว่างทางเริ่มต้นตั้งแต่ในเมืองที่เต็มไปด้วยตึกอาคารสูงใหญ่ถนน 4 5 เลน ทั้งซ้ายทั้งขวา ค่อย ๆ เปลี่ยนวิวสองข้างทางให้เป็นพื้นที่โล่งพร้อมลดขนาดของถนนให้เล็กลง แต่คงไว้ซึ่งความสวยงามแบบแห้ง ๆ (เอาจริงถ้าเป็นคนบ้านเค้าเองมองก็คงเฉย ๆ พาลน่าเบื่อด้วยซ้ำด้วยความชินตา แต่กับเราคนไทยที่ไม่ค่อยได้เห็นภาพแบบนี้ แม้จะเป็นเส้นทางโล่ง ๆ ไม่มีอะไรมากมาย แต่ก็สร้างความแปลกตาให้เราได้ไม่น้อย)


• Road to Rub’ Al Khali •

…ภาพการเดินทางครั้งนี้ผมเดินทางมาช่วงต้นเดือนมีนาคม สภาพอากาศก็จะค่อนข้างร้อนสักหน่อย (จริง ๆ ก็ร้อนมากแหละ) แดดเปรี้ยง ๆ ยืนกลางแจ้ง ลมพัดมาอ้าว ๆ เกือบ 40 องศา.. หากใครที่จะมาประเทศยูเออีแนะนำว่าควรเป็นสักช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงกุมภาพันธ์อากาศที่ตัวเมืองดูไบ หรืออากาศโดยรวมก็จะเย็นกว่านี้หน่อย

…พื้นที่โดยรวมบริเวณนี้จะเรียกว่า Liwa Desert ก็ว่าได้เพราะเป็นเขตพื้นที่เมืองเล็ก ๆ แล้วก็จะเข้ามาสู่พื้นที่ Empty Quarter ที่ยังอยู๋ในเขตของประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์อยู่ (แต่ถ้าขับต่อจากนี้ไปอีกสักหน่อยก็จะไปเป็นเขต Empty Quarter ของซาอุดิอาระเบียแล้ว) วิวสองข้างทางมุ่งหน้าตอนนี้ก็เริ่มเปลี่ยนเป็นเนินทรายสูง ๆ ให้เราได้เห็นบ้างแล้ว


• Qasr Al Sarab Desert Resort by Anantara •

…และแล้วจากทะเลทรายด้านนอกก็ขับผ่านเข้ามาเรื่อย ๆ จนในที่สุดก็ถึงที่พักที่ได้มานอน “Qasr Al Sarab Desert Resort by Anantara” สุดยอดที่พักที่เหมือนถูกเนรมิตขึ้นมาท่ามกลางผืนทะเลทรายอันว่างเปล่า อารมณ์คล้าย ๆ เจอโอเอซิสเลยเพราะตลอดทางที่ผ่านมานั้นดูแห้งแล้งเกินกว่าที่จะมีสิ่งปลูกสร้างใด ๆ มาตั้งอยู่บนพื้นที่แบบนี้ 

…ใครที่หากได้มีโอกาสมาที่นี่บอกเลยว่าให้เตรียมเสื้อผ้าเตรียมชุดมาให้พร้อม หรือจะมาซื้อที่นี่ก็ได้ การได้ใส่เสื้อผ้าแนวอาหรับแล้วอยู่ในสถานที่แบบนี้มันจะดีมากจริง ๆ .. ส่วนผมเนื่องจากมาทำงานเป็นหลักไอ้ครั้นจะมาแต่งตัวกลมกลืนก็ดูจะเสียเวลางานก็ใส่ไปกับชุดเก่งแจ๊คเก๊ตยีนส์ที่ไม่สามารถใส่ที่นี่ได้ตลอดวัน เพราะมันร้อน.. ก็แค่หยิบขึ้นมาใส่ตอนถ่ายรูปแล้วก็วางแหมะไว้ ฮ่าๆๆๆ


• Across the Universe at Empty Quarter •

…กิจกรรมที่เมื่อมาถึงทะเลทรายแล้วแม้อาจจะไม่ได้มีอะไรมาก แต่หนึ่งในหลัก ๆ เลยก็คือการมานั่งอูฐ ขี่อูฐนี่แหละครับ .. เตรียมเสื้อผ้าให้พร้อมให้เข้ากับรรยากาศ อูฐที่นี่ก็แต่งตัวกันซะสวยหล่อพร้อมต้อนรับนักเดินทางอย่างเรา ๆ ให้มีรูปสวย ๆ ติดกลับไปโพสลงโซเชี่ยลเท่ ๆ  


• Thrilling Dune Bashing •

…กิจกรรมต่อมาที่ต้องบอกว่าเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมไฮไลท์ของทะเลทรายแทบจะทุกที่นั่นคือการนั่งรถ 4WD แล้วระทึกไปกับการไต่ระดับรถไปตามแนวเนินทรายที่เอียงที่ชัน บางสเตปรถเอียงเกิน 45 องศา ก็นั่งลุ้นกันไปหวีดร้องกันไป ทั้งนี้ทั้งนั้นเพื่อความปลอดภัยคนขับก็จะกำชับให้เราคาดเข็มขัดนิรภัยขณะนั่งอยู่ในรถ และในรถที่ด้านบนหลังคาถ้าเป็นรถที่ทำมาเพื่อ Dune Bashing ก็จะมีการติดคานเสริมกันกระแทก และเป็นที่จับให้เราทรงตัวขณะที่รถเหวี่ยง และแล่นไปมา.. 

…ผมเองเคย Dune Bashing ครั้งแรกก็ที่ดูไบ.. ครั้งที่สองที่ Wahiba Sands ประเทศโอมาน แล้วก็ได้มาครั้งนี้อีกเป็นครั้งที่สาม บอกเลยว่าระทึกทุกครั้ง.. โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาที่รถเอียงตัวแล้วมุ่งทะยานไปข้างหน้า รวมทั้งพยายามไต่ระดับขึ้นไปยังยอดเนินทรายด้านบนที่สูง และชัน ซึ่งดูแล้วก็ไม่น่าเชื่อว่ารถจะแล่นขึ้นไปได้ แต่ด้วยความสามารถของคนขับรถที่ช่ำชองผ่านการเรียนการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี บวกกับสมรรถะภาพของรถที่ต้องมีประสิทธิภาพจริง ๆ อย่างเรื่องของลมยางเมื่อแล่นบนเนินทรายก็จะมีการผ่อนลมออก ก็จะใช้ระดับที่ต่างไปจากแล่นบนพื้นถนนปกติ.. โดยมากก็จะใช้เวลาอยู่ราว ๆ 15 นาที 20 นาที แล้วแต่ว่าเราอยากสนุกตื่นเต้นนานแค่ไหน หรือหากบางคนกลัวมาก ๆ ก็สามารถบอกให้คนขับขับแบบซอฟท์ ๆ ก็ได้ อันนี้ก็แล้วแต่หมู่คณะตกลงกัน


• Time Change Colours Change •

…จังหวะของแสง และเงาที่ตกลงมาทำมุมให้เนินทรายนั้นดูมีมิติแตกต่างกันไปได้แทบตลอดวัน คลื่นของริ้วรอยทรายที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าเป็นภาพที่สวยงาม และมหัศจรรย์มาก ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงที่มีแสงจากอาทิตย์สาดส่องลงมาเป็นช่วงเวลาสีทองที่เลือกกดชัตเตอร์เก็บภาพแทบไม่ทัน


• Across the Universe at Empty Quarter •

…ส่วนตัวแล้วยอมรับเลยว่าเห็นวิวสวย ๆ ได้ไปมาแม้จะไม่เยอะประเทศ แต่ก็มีหลายที่หลายประเทศหลายสภาพภูมิทัศน์ที่แปลกตาแล้วก็ถ่ายรูปแลนด์สเคปได้สนุกสนาน ซึ่งที่ทะเลทรายนี่ก็ไม่แพ้กันกับความสนุกในการถ่ายรูป การหามุมต่าง ๆ ของเนินทราย ผืนทราย จังหวะลมที่พัดให้ริ้วรอยทรายเปลี่ยนไปมา ยิ่งมีเวลามากเท่าไหร่ก็ยิ่งซึมซับยิ่งได้ภาพกลับมากมากขึ้น


• Across the Universe at Empty Quarter •

…ช่วงเวลาในแต่ละวันตั้งแต่เช้าตรู่ไปจนถึงเย็นที่เนินทรายเปลี่ยนมุมเปลี่ยนองศาไป รวมถึงสีสันที่ถูกแสงแดดสะท้อนทำให้บางทีเห็นทรายเป็นสีขาว สีส้ม สีทอง และสิ่งต่าง ๆ ที่เป็นความลงตัวในรูปแบบทะเลทราย คือความสมบูรณ์แบบของธรรมชาติที่วันนี้ได้มาเห็นอีกครั้ง พร้อมบอกกับตัวเองว่าโชคดีมาก ๆ ที่ได้กลับมาเหยียบทะเลทรายอันกว้างใหญ่อีกครั้ง.. และก็ยังหวังว่าด้วยหน้าที่ และการงานก็คงจะทำให้ได้เดินทางไปในที่ต่าง ๆ รวมถึงได้เจอะได้เจอทะเลทรายสวย ๆ แบบนี้อีกไม่ว่าจะเป็นที่ไหนก็ตาม


Facebook Comments
Please follow and like us:
20