🇵🇱 Zakopane : Winter Wonder(Po)land 🇵🇱

“ZAKOPANE” เมืองซาโคพาเน่ได้รับการขนานนามให้เป็น “Winter Capital of Poland” แปลให้เป็นไทยเพราะ ๆ ก็คือ “เมืองหลวงแห่งฤดูหนาวของโปแลนด์” นั่นเอง ที่เมืองนี้ยังเป็นสัญลักษณ์แห่งเมืองของการพักผ่อนของชาวโปแลนด์อีกด้วย เพราะในฤดูร้อนชาวโปแลนด์ส่วนใหญ่ก็จะชอบมาเดินเขา ปีนเขา ทำกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อเป็นการพักผ่อนหย่อนใจ ใช้เวลากับวันหยุดกับช่วงที่สามารถเที่ยว และเดินทางได้อย่างสบาย ๆ ..พอย่างเข้าสู่ช่วงฤดูหนาวกิจกรรมที่เมืองนี้ก็จะเปลี่ยนไปเป็นการเล่นสกีหิมะ การเดินเขาแบบหนาว ๆ ชื่นชมธรรมชาติในสภาพอากาศที่หนาวเย็น เรียกว่าก็จะได้กันคนละอารมณ์แตกต่างกันไป

ปล. ภาพการเดินทางอัลบั้มนี้เดินทางเมื่อ ธันวาคม 2017 … ข้อมูลบางอย่างในวันนี้อาจแตกต่างจากวันนั้น.. ส่วนที่เขียนถึงเพราะหน้าหนาวทีไรคิดถึงเมืองนี้ทุกที …ข้อมูลเพิ่มเติม : การเดินทางสู่เมือง Zakopane
– รถไฟจาก Warsaw เดินทางมายัง Zakopane เวลาจะอยู่ที่ราว 5 ชม.
– รถไฟจาก Krakow จะใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง ราคาสำหรับ express train ราคาอยู่ที่ประมาณ 122 PLN
– รถบัสจาก Krakow มาจะใช้เวลา 3 ชั่วโมงครึ่ง เวลาจะไม่ต่างกันมากกับรถไฟ ซึ่งตัวสถานีรถบัสเองก็อยู่ใกล้สถานีรถไฟของเมืองเลยครับ
– หรือหากใครต้องการความเป็นส่วนตัว ก็ลองเสิรช์ราคาเช็คจากเว็บนี้เลย http://www.krk-krakowtours.com/prices.html


…ตัวบ้านอันเป็นเอกลักษณ์ของเมืองซาโคพาเน่นี้ก็จะเป็นลักษณะของบ้านไม้เล็ก ๆ เท่าที่ผมสังเกตก็จะมีความสูงประมาณ 2 ชั้น ไม่ค่อยเห็นบ้านทรงสูงกว่านี้สักเท่าไหร่ ซึ่งลักษณะของบ้านไม้ที่เห็นแบบนี้ชาวเมืองก็เรียกกันว่าเป็น “ซาโคพาเน่สไตล์” ซึ่งมองดูแล้วก็น่ารักดี …ตลอดเส้นทางที่เราค่อย ๆ นั่งรถเข้าไปยังที่พักก็จะได้เห็นวิวสองข้างทางที่สวยงาม แสงแดดที่ยังพอแรงส่องลงมาให้เห็นแสงเงาตอนบ่าย ๆ เป็นความงดงามที่เหมือนว่าผมนั้นค่อย ๆ หลุดเข้าสู่ดินแดนหิมะที่น่าอัศจรรย์อย่างไรอย่างนั้นเลย


Jaszczurowka Chapel : Zakopane

…สถานที่แรกที่แวะกันก่อนจะเข้าถึงตัวที่พักก็คือความมหัศจรรย์ของโบสถ์ไม้ที่ “Jaszczurowka Chapel” โบสถ์ไม้ที่สร้างขึ้นโดยไม่มีวัสดุเชื่อมต่อใด ๆ ไม่ว่าจะน๊อตหรือจะตะปู เรียกได้ว่าเป็นงานไม้ล้วน ๆ แถมอายุอานามของโบสถ์นี้ก็สร้างขึ้นมายาวนานกว่า 100 ปีแล้ว เรียกได้ว่าเป็นโบสถ์เก่าแก่อีกแห่งที่อยู่คู่เมืองซาโคพาเน่มาช้านาน

…บรรยากาศภายในก็อย่างที่เห็นครับว่าเป็นไม้ล้วน ๆ สวยงาม ซึ่งแม้พื้นที่ของโบสถ์นั้นอาจจะไม่ใช่โบสถ์ใหญ่อะไรมาก แต่ในด้านของความศรัทธา และความนับถือนั้นก็ไม่แตกต่างกันจากโบสถ์ไหน ๆ


Aries Hotel & Spa

…ส่วนที่พักที่ผมได้นอนที่เมืองซาโคพาเน่ “Aries Hotel & Spa” ที่ตอนนี้หลังคาเป็นสีขาวไปหมดแล้ว ภายในห้องพักก็สวยงามเป็นโรงแรมที่ค่อนข้างใหญ่หากเทียบกับที่อื่น ๆ หลายแห่งของเมืองนี้

…ตัวล๊อบบี้ก็ยังมีบริเวณเตาผิงไฟไว้ให้ไออุ่นในช่วงฤดูหนาวด้วย อันนี้มันช่วยได้จริง ๆ ทุกครั้งที่ผมซมซานจากสภาพอากาศข้างนอก พอเข้าถึงข้างในที่อุ่น ๆ แล้วยังไม่พอ ก็ต้องมานั่งผิงไฟสักพักสร้างความอบอุ่นให้ร่างกายก่อน .. ใครที่มีโอกาสได้มาเที่ยวที่เมืองซาโคพาเน่ จะลองมาพักที่นี่ผมว่าก็จะยังฟินเลยครับเพราะบรรยากาศในโรงแรมนั้นคลาสสิคจริง ๆ http://www.hotelaries.pl/en/


Walking in the Winter Wonderland

…ช่วงเวลาเย็นก่อนจะไปหัวค่ำสำหรับฤดูหนาวนั้นจะรวดเร็วมาก เผลอแว๊บเดียวท้องฟ้าก็พร้อมจะเปลี่ยนสีทันที ตอนนี้พอมีเวลาก็จำเป็นต้องรีบเดินเก็บเกี่ยวบรรยากาศยามเย็นกันไปก่อนสักเล็กน้อยแถว ๆ ที่พัก ก่อนจะไปยังถนนหลัก Krupowki Street ต่อไป


Twilight Time at Krupowki Street

…บริเวณถนนเส้นนี้ก็เป็นเหมือนถนนสายหลักแห่งการเดินเล่นช๊อปปิ้งของเมืองซาโคพาเน่นี่เลยก็ว่าได้ เพราะจะเต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก เสื้อผ้า หมวก รองเท้าต่าง ๆ ซึ่งก็จะเปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาลอย่างที่เรามาในช่วงนี้ก็จะพบเจอแต่พวกเสื้อกันหนาว รองเท้าลุยหิมะ หมวกไหมพรม ถุงมือ พอเป็นหน้าร้อนก็จะเป็นรองเท้าผ้าใบใส่สบาย เสื้อยืด ก็ปรับเปลี่ยนไปตามเวลา และก็บรรยากาศของเมืองของถนนหนทางรอบ ๆ ตัวนี่แหละครับ ที่หากเป็นหน้าร้อนแล้วก็จะเปลี่ยนเป็นอีกฟิวลอีกอารมณ์ไปเลย

…ท่ามกลางอุณหภูมิที่ต่ำจนติดลบไปแล้วตอนนี้ ราว ๆ ประมาณ -3 องศา กับบรรยากาศของตลาด โซนช๊อปปิ้ง ร้านค้า ฯลฯ ช่วงหน้าหนาวที่ซาโคพาเน่ก็จะค่อนข้างเป็นไปในบรรยากาศคริสต์มาสเยอะสักหน่อย เพราะแน่นอนว่าใกล้ถึงวันสำคัญเข้ามาทุกที


Good Morning Zakopane

…ตื่นเช้าด้วยความคึกคัก และคึกสุด ๆ เพราะตื่นมาเปิดหน้าต่างห้องนอนเห็นสีฟ้ารำไร ๆ พอเป็นความหวังว่าวันนี้จะได้เจอท้องฟ้าสวย ๆ ตัดกับหิมะขาว ๆ ก็หวังไว้ว่าจะดี ทานอาหารเช้าที่โรงแรมเสร็จเรียบร้อยก็เตรียมเดินทางด้วยรถตู้เพื่อมุ่งหน้าต่อไปยังบริเวณของ Tatra Mountains Area โดยมีจุดหมายการเดินทางอยู่ที่ Morskie Oko ซึ่งเดี๋ยวผมจะอธิบายเพิ่มเติมต่อไปว่ามันคืออะไร .. ตอนนี้ชมภาพระหว่างเดินทางกันไปเรื่อย ๆ ก่อนกับวิวข้างทาง..


The Way to Tatra Mountains

…แวะถ่ายรูประหว่างทางกันสักหน่อยเพราะวิวระหว่างทางไปนั้นงดงามมาก ยิ่งเป็นในช่วงฤดูหนาวด้วยแล้วความงดงาม และความแปลกตาก็ยิ่งเย้ายวนให้ชวนแวะจอดรถถ่ายภาพเก็บเป็นที่ระลึกสักหน่อย


Morskie Oko : Tatra Mountains Area

…เมื่อมาถึงก็จัดแจงซื้อตั๋วเข้าอุทยานกันครับ เท่าที่เห็นจากป้ายนี่ค่าเข้าแค่คนละ 5 PLN เท่านั้น(50 บาทไทย) ส่วนเส้นทางการเดินสู่จุดทะเลสาบ Morskie Oko นั้นประมาณ 9 กิโลเมตร ซึ่งหากเดินจริง ๆ ค่อยขึ้นเขาไปเรื่อย ๆ จะใช้เวลาประมาณ 2-3 ชม. ซึ่งถ้ามีเวลาก็ถือว่าเพลินครับ เพราะได้สัมผัสบรรยากาศสองข้างทางอย่างช้า ๆ แต่หากเวลาน้อย หรือว่าคิดว่าเดินไม่ไหวก็มีบริการรถม้าลาก แต่เราจะไม่สามารถนั่งรถม้าไปได้จนถึงบริเวณทะเลสาบนะครับ ซึ่งราคาจะอยู่ที่ประมาณ 50 PLN ต่อคน .. โดยจะใช้เวลาประมาณ 1 ชม. ถึงยังบริเวณจุดพักที่มีห้องน้ำ และห้องอาหารไว้บริการ จากนั้นก็ต้องเดินเท้ากันต่ออีกประมาณ 30-40 นาที

เมืองซาโคพาเน่ (Zakopane) อาจเป็นชื่อที่คนไทยเราไม่คุ้นเคยสักเท่าไหร่ เพราะเป็นเมืองเล็ก ๆ ที่อยู่ทางตอนใต้ของประเทศโปแลนด์ มีพื้นที่ชายแดนติดกับทางตอนเหนือของประเทศสโลวาเกีย แต่ความยิ่งใหญ่ของเมืองนี้ก็คือได้รับการขนานนามให้เป็นเมืองยอดนิยมจากเหล่านักท่องเที่ยวที่ทั้งมาพักผ่อนหย่อนใจกับวันสบาย ๆ รวมถึงเหล่านักเดินทางที่ชอบความท้าทายกับธรรมชาติ สาเหตุก็เพราะเมื่อถึงช่วงเวลาฤดูร้อนผู้คนจำนวนมากก็จะพากันมาเดินป่า ปีนเขาไต่เขา ปั่นจักรยาน ล่องเรือทำกิจกรรมต่าง ๆ สารพัด และเมื่อถึงวันที่ความหนาวเย็นมาเยือนจนหิมะปกคลุมทั่วภูเขาน้อยใหญ่ บรรดาผู้รักความโลดโผนทดสอบสภาพจิตใจ และร่างกายก็จะนิยมมาเล่นสกีหิมะ เล่นสโนว์บอร์ดกันที่เมืองเล็ก ๆ แห่งนี้ เรียกได้ว่าเป็นเมืองแห่งกิจกรรมอย่างแท้จริง

…ระหว่างทางที่นั่งรถม้าลากขึ้นมาเรื่อย ๆ ตอนนี้รอบตัวก็จะเป็นหิมะทั้งหมดทั้งสิ้น จนถึงจุดจอดรถม้าแล้วเราต้องเดินต่อก็จะได้เก็บภาพง่าย ๆ สักหน่อย การเดินนั้นผมว่าโอเคนะครับเดินที่นี่ตอนนี้เดินยังไงก็ไม่มีเหงื่อแน่นอน 5555 อุณหภูมิช่วงสาย ๆ ตอนนี้อยู่ที่ประมาณ -5 องศาเซลเซียส สะท้านกันไป .. ยิ่งนั่งรถม้าแล้วลมมันตีเข้ามานี่บอกเลยว่ายะเยือกตอนนั่งรถม้าคนขี่ก็ต้องมอบผ้าห่มให้พวกเราแบ่งกันห่ม แต่ตอนนี้ที่ลงเดินก็ตัวใครตัวมันแล้ว… …เสื้อผ้าผมนี่ห้าวมากเลยเพราะจะแปลกประหลาดกว่าทุกคนในที่นี่ทั้งหมด เหตุเพราะก่อนเดินทางมาครั้งนี้ผมเช็คสภาพอากาศอยู่ที่ต่ำสุดราว 0 องศา เลยคิดว่าแค่เสื้อหนัง เสื้อยืด ฮีทเทค น่าจะอยู่ แต่เอาเข้าจริงมันหนาวกว่าที่จะใส่แค่นั้น .. อย่างวันนี้ผมก็ยังเหมือนเดิมฮีทเทค + เสื้อยืด 2 + เสื้อหนัง .. ส่วนกางเกงก็ลองจอห์น + เกงยีนส์ .. มันก็พอทนได้นะครับสำหรับผม แต่ที่ทนแทบไม่ได้คือ ตรงส่วนที่เราไม่มีเสื้อผ้าปกคลุมอย่างผม ใบหน้า หู มือ .. ดังนั้นใครมาหนาวขนาดนี้ควรเตรียมให้พร้อมครับ ปิดทุกส่วนร่างกายรับรองว่าจะเที่ยวได้อย่างสบายใจ


Welcome to Morskie Oko(Sea Eye)

…เดินไปหนาวไปในที่สุดก็มาถึงบริเวณทะเลสาบ “Morskie Oko” หนึ่งในส่วนพื้นที่ของ Tatra Mountains (ในภาษาโปลิชคำว่า Morskie แปลว่า “ทะเล” และ Oko แปลว่า “ดวงตา”) เอามารวมกันก็คือ “Sea Eye” หรือแปลให้เป็นไทยสวย ๆ ก็ได้ว่า “ดวงตาแห่งท้องทะเล” แต่ในความเป็นจริงแล้วกลับไม่ใช่ทะเลเพราะที่นี่คือทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดที่ตั้งอยู่บนเทือกเขาทาทราแห่งนี้ ในฤดูร้อนเราจะเห็นทะเลสาบ Morskie Oko ถูกล้อมด้วยแนวต้นไม้ที่มีเทือกเขาอยู่รอบด้าน และความนิ่งของผืนน้ำที่งดงามเกินจินตนาการ แต่เมื่อความหนาวเย็นมาเยือนจนถึงระดับที่อุณหภูมิลดต่ำลงจนถึงระดับที่น้ำกลายเป็นน้ำแข็ง จากผืนทะเลสาบอันกว้างใหญ่ที่มีความลึกถึง 51 เมตร ก็พร้อมกลายเป็นลานน้ำแข็งไปในทันทีดั่งที่เห็นในภาพ ซึ่งใครอยากเห็นว่าหากเป็นช่วงหน้าร้อนที่นี่จะหน้าตาเป็นยังไงก๊อปปี้คำนี้ “morskie oko lake summer” แล้วแปะในกูเกิ้ลเลยครับ.. จะเห็นว่าภาพนั้นต่างกันมากมายราวฟ้ากับเหว แต่ความสวยงามก็แตกต่างกันไปเช่นกัน…

…บริเวณทะเลสาบนี้ก็จะมีร้านอาหาร ห้องน้ำไว้คอยบริการนักท่องเที่ยว ยิ่งในเวลาที่ทุกคนต้องการความอบอุ่นในร้านอาหารนี่ก็แน่นเป็นพิเศษ ผมเองขี้เกียจไปเบียดพอรับประทานอาหารกลางวันเสร็จที่ด้านในร้าน ก็รีบออกมาข้างนอกเดินเล่นอยู่ริม ๆ ทะเลสาบนี่แหละครับ ซึ่งอย่างที่เห็นในภาพหน้าปกอัลบั้มก็คือภาพที่ผมนั่งตัวแข็งหน้านิ่งอยู่ที่ด้านบนทะเลสาบนี่เลย วินาทีที่ได้มายืนแม้จะไม่เหมือนช่วงหน้าร้อนตามที่เห็นในภาพ แต่สิ่งที่รู้สึกได้ดีก็คือความสวยงามของธรรมชาติที่อยู่รอบตัว เราเคยไปแต่ที่ร้อน ๆ หรือให้หนาวสุดในชีวิตก็ไม่เคยเจออะไรแบบนี้ นี่คือครั้งแรกที่ได้อยู่ท่ามกลางหุบเขาหิมะบอกตรง ๆ ว่ามีความสุขมากครับ…

…ว่าแล้วก็ทิ้งท้ายถอนหายใจเดินกลับ และขึ้นรถม้าออกจาก Moskie Oko หนึ่งในสี่ทะเลสาบแห่งเทือกเขาทาทรา ..


Windows View at Zakopane

…ภาพช่วงนี้จะเป็นเซ็ทที่ถ่ายบนรถตู้ล้วน ๆ ระหว่างเส้นทางถนนที่ขับไปมาภายในเมืองนี้ .. ชมบรรยากาศกันเพลิน ๆ 


Kasprowy Wierch : Tatra Mountains Area

…อีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญเมื่อมาถึงซาโคพาเน่แล้วก็คือบริเวณของ Tatra Mountains Area แต่วันนี้เราจะนั่งกระเช้า หรือเคเบิ้ลคาร์ขึ้นไปยังจุดชมวิว Kasprowy Wierch ที่มีระดับความสูงถึง 1,987 เมตรจากระดับน้ำทะเล ราคาค่าขึ้นเคเบิ้ลคาร์อยู่ที่ไปกลับประมาณ 63 PLN ซึ่งอาจมีการปรับสูงขึ้นในช่วง High Season สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมทั้งการเดินทาง และราคาได้จากเวป Official นี้ได้เลย http://kasprowywierch.biz/english.html

…จากนั้นก็ต่อด้วยการขึ้นเคเบิ้ลคาร์เบ็ดเสร็จใช้เวลาประมาณ 15 นาที มีสองสเตปในการต่อเคเบิ้ลคาร์ ซึ่งวิวรอบ ๆ ตัวนั้นงดงามเกินบรรยายจริง ๆ ครับทั้งภูเขาเทือกเขาลูกโต ๆ ที่อยู่ขนาบข้างเรา หรือผืนป่าที่อยู่เบื้องล่าง.. ลองจินตนาการสลับภาพเล่น ๆ หากเป็นช่วงหน้าร้อนเราก็คงได้เห็นอะไรอีกแบบ… และแน่นอนว่ามุมมองจากด้านบนนั้นทำให้เราเห็นอะไรได้ชัดเจน และสวยงามอยู่เสมอ ๆ 


Ain’t No Mountains High Enough

Kasprowy Wierch จุดที่ขึ้นมานี้มีพื้นที่อยู่ทางทิศตะวันตกของเทือกเขาทาทรา (Tatra Mountains) ซึ่งตามภูมิศาสตร์แล้วเทือกเขาทาทรานี้จะเป็นเขตแดนที่แบ่งระหว่างทางตอนใต้ของประเทศโปแลนด์ และทางตอนเหนือของประเทศสโลวาเกีย บางจุดของเทือกเขาก็จะใช้ลำธารเป็นเส้นแบ่งแดน(อย่างตอนนั่งรถม้าก่อนเข้าทะเลสาบเมื่อวาน เราก็ผ่านลำธารแบ่งแดนด้วย) และบางจุดก็จะใช้แนวของภูเขาสลับกันไปตามสภาพพื้นที่

…ซึ่งในจุดสูงสุดของเทือกเขาทาทรานั้นหลังจากที่เรานั่งเคเบิลคาร์ขึ้นมาแล้วเราก็สามารถเดินขึ้นต่ออีกนิดก็จะถึงด้านบนสุดได้ง่าย ๆ โดยจุดที่สูงที่สุดนั้นมีความสูงถึง 1,987 เมตร จากระดับน้ำทะเล (ยอดดอยอินทนนท์จุดที่สูงสุดของบ้านเราอยู่ที่ประมาณ 2,565 เมตร) ….


Goodbye Zakopane Winter Songs 

…ในที่สุดก็ถึงด้านบนแล้วท้องฟ้างดงามสดใสเหมือนที่ดูสภาพอากาศมาเมื่อคืนเป๊ะ เมื่อมาถึงด้านบนแล้วก็เดินเท้าต่ออีกนิด ..

…เมื่อมองออกไปรอบ ๆ ก็จะเห็นท้องฟ้าสดใสตัดกับพื้นหิมะ ภูเขาหิมะสีขาวสวยงาม .. โชคดีมากครับที่ฟ้าเปิดอย่างที่เห็น มาเที่ยวทั้งทีได้พกด้วยแจ่ม ๆ แบบนี้มาด้วยต้องบอกว่าเหมือนถูกหวยรางวัลใหญ่ ๆ เลย

…พื้นที่บริเวณยอดเขาที่มองไปทางไหนก็เห็นล้อมรอบด้วยสีขาวของหิมะเป็นภาพที่งดงามมากทั้งความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ และความสวยงามที่ธรรมชาติมอบไว้ให้กับเมืองเล็ก ๆ เมืองนี้ จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเมืองซาโคพาเนจึงเป็นเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวโปแลนด์ และนักเดินทางจากต่างแดนอีกจำนวนมากที่พร้อมจะมาผ่อนคลายไปกับธรรมชาติแบบสุดขีดของเมือง ๆ นี้


Miss You Much Zakopane

…Zakopane อาจไม่ใช่เมืองที่มีชื่อเสียงโด่งดังเท่ากับเมืองอื่น ๆ จากหลาย ๆ ประเทศในยุโรป แต่เรื่องราวของธรรมชาติ ทัศนียภาพ และความอุดมสมบูรณ์นั้นบอกได้คำเดียวว่าสุดยอดมาก ๆ ซึ่งความงดงามในแต่ละฤดูกาลนั้นก็พร้อมจะเปลี่ยนภาพของเมืองทั้งเมืองให้แตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง.. ที่นี่เป็นอีกการเดินทางที่อยู่ในใจแบบไม่ลืมเลือนเลยนับแต่วันที่ได้มาเมื่อ 2017 จนถึงตอนนี้ที่เขียนอัลบั้มนี้จะเข้าปลายปี 2020 แล้วก็ตาม .. และทั้งหมดทั้งมวลที่นำภาพมาเล่าเรื่องอีกครั้งก็เพราะคิดถึงเมืองนี้มาก ๆ แค่นั้นเอง…

❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤

Facebook Comments
Please follow and like us:
20