เมืองกาญจน์เที่ยวง่าย นอนสบายที่ยู อินจันทรี…

…กาญจนบุรีเมืองท่องเที่ยวที่มีสถานที่หลากหลายรูปแบบให้เราเลือกว่าต้องการหรืออยากได้แบบไหน เมืองกาญจน์มีให้เราแทบทุกรูปแบบถ้าไม่นับทะเล 555 ไม่ว่าจะเป็นน้ำตก ถ้ำ ภูเขา เขื่อน อ่างเก็บน้ำ เดินป่า วิถีชีวิต สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ มีหลายต่อหลายที่หลายกิจกรรมมากมายที่เราสนุกสนานได้แทบทุกครั้งที่เลือกที่จะมาเที่ยวเมือง ๆ นี้.. รวมทั้งที่หลับที่นอนก็มีหลากหลายเช่นกันจะโรงแรม รีสอร์ท นอนเต๊นท์อุทยาน นอนแพริมเขื่อน หรือลากแพไปกลางเขื่อน ก็ทำได้ทั้งนั้น

…ซึ่งในรีวิวนี้ผมจะมานำเสนอที่พักอีกหนึ่งแห่งที่น่าสนใจมากก็คือ โรงแรมยู อินจันทรี กาญจนบุรี ที่บอกว่าน่าสนก็เพราะโรงแรมนี้อยู่ใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดในจังหวัดกาญจนบุรีเลยก็ว่าได้เพราะที่โรงแรมนี้อยู่แทบจะติดกับ “สะพานข้ามแม่น้ำแคว” ที่ใครไปใครมาเมืองกาญจน์ก็เป็นต้องแวะมาเก็บภาพกลับไปเป็นที่ระลึก .. หน้าตาโรงแรมจะเป็นอย่างไร และภายใน 2 วัน 1 คืน เราจะไปเที่ยวที่ไหนอะไรยังไงได้บ้าง.. ตามไปชมกันเลย

00-00

…โรงแรมยู อินจันทรี เป็นโรงแรมที่พักที่มีขนาดไม่ได้ใหญ่กว้างขวางอะไรมาก แต่พื้นที่ก็ไม่ได้เล็กอึดอัดมากจนเกินไป เรียกว่าถ้าไซส์ขนาดเท่าที่นี่สำหรับผมแล้วถือว่ากำลังดีครับ เพราะบางที่พักใหญ่มากเดินไปไหนมาไหนทีก็อาจต้องเดินไกล หรือต้องใช้บริการรถกอล์ฟเลยก็มี .. ส่วนที่มาที่ไปของชื่อโรงแรมหากใครเป็นคนยุคเก่าหน่อย (ผมไม่ได้ว่าใครแก่นะ 555) ก็อาจพอคุ้นอยู่บ้างกับคำว่า “อินจัน” ที่เป็นแฝดสยามของไทยเราในอดีตนั่นเอง

…ส่วนชื่อ “ยู อินจันทรี” นั้นมาจากต้นไม้อินจันอันเก่าแก่ที่สูงตระหง่ายเขียวชอุ่มอยู่ในภาพเปิดอัลบั้มนี้ ซึ่งมีอายุมากว่า 200 ปีแล้ว และในปัจจุบันนี้ก็ยังคงออกดอกออกผลให้ได้รับประทานกันอยู่ ต้นอินจันที่เห็นในภาพต้นนี้เป็นต้นไม้หากยาก ซึ่งในประเทศไทยเองก็มีเพียงไม่กี่ต้นที่มีลักษณะเช่นนี้ ซึ่งชื่อของมันก็มาจากผลิตผล 2 ชนิด คือ “ลูกอิน” “ลูกจัน” ในต้นเดียวกัน ซึ่งจะสลับกันสุกในแต่ละปี และมากไปกว่านั้นก็ยังเป็นสัญลักษณ์ของความมั่นคงในความรักด้วยเช่นกัน

01-01 01-02 01-03

 

…บรรยากาศบริเวณกลางแจ้งที่อยู่คนละโซนกับที่พักก็จะเป็นบริเวณพักผ่อนชมวิวสวย ๆ สามารถมองเห็นสะพานข้ามแม่น้ำแควอยู่ด้านข้างได้ชัดเจนเลย เรียกว่าแนบชิดเลยก็ว่าได้.. บริเวณนี้จะเขียวชอุ่มร่มรื่นมา ยิ่งวันที่มาอากาศครึ้ม ๆ น่านอนดีแท้…บริเวณนี้ก็จะมีทั้งห้องออกกำลังกาย ห้องอ่านหนังสือ สระว่ายน้ำ ห้องอาหาร และเตียงนอนเล่นไว้สำหรับเปลี่ยนบรรยากาศการพักผ่อนของแขกผู้มาพัก

02-01 02-02 02-03 02-04

…กลับเข้ามาสู่บริเวณที่พักกันดูบ้างอย่างที่บอกไปว่าที่นี่นั้นไม่ได้เป็นที่พักขนาดใหญ่มาก แต่การจัดผังของพื้นที่ก็เป็นไปอย่างลงตัว โดยห้องพักทั้งหมดที่มีด้วยกัน 50 ห้อง แบ่งเป็น Superior 20 ห้อง / Deluxe 26 ห้อง / Suites 4 ห้อง … ซึ่งเรามาเริ่มต้นกันด้วยแบบ Deluxe Room กันก่อนเลย

03-1 03-2

…บรรยากาศภายในห้อง Deluxe นั้นออกแบบตกแต่งได้อย่างลงตัวเข้ากับบรรยากาศความเป็นเมืองกาญจน์มาก ๆ พื้นที่ห้องขนาดกว้างขวางมีเตียงนอนที่เป็นแบบ Double และ Twin Beds พร้อมยังแถมโซฟาเตียงเล็กไว้ให้กลิ้งเล่นเปลี่ยนบรรยากาศได้อีกด้วย

…พื้นที่ใช้สอยส่วนต่าง ๆ ก็ออกแบบไว้ได้ลงตัวดีทีเดียวมีมุมนั่งจิบกาแฟ ห้องน้ำที่แบ่งฝั่งซ้ายขวามีอ่างล้างหน้าอยู่ตรงกลาง ..ส่วนห้องอาบน้ำก็เป็น Rain Shower พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทีวี เครื่องเล่นเพลง, มินิบาร์, ตู้นิรภัย, ไดร์เป่าผม, อินเตอร์เนทวายฟาย, ชุดชากาแฟ เรียกว่าครบถ้วนตามแบบฉบับที่ห้องพักควรจะมี

04-01 04-02 04-03 04-04 04-05 04-06 04-07

…จากนั้นก็มาต่อกันยังห้อง Superior ซึ่งมีด้วยกันทั้งหมด 20 ห้อง ที่ออกแบบอยู่ในสไตล์โมเดิร์นทันสมัยสีโทนห้องที่ใช้ก็คล้ายคลึงกับห้อง Deluxe จึงพอเข้าใจได้ว่าโทนสีของห้องพักที่นี่จะเป็นโทนประมาณนี้ เพราะก็เข้ากันกับสีของอาคารด้านนอก ซึ่งเตียงก็ยังคงมีให้เลือกระหว่าง Double หรือ Twin Beds พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่เหมือนกับห้อง Deluxe ยังไงยังงั้น

…แน่นอนว่าห้อง Superior นั้นเล็กกว่า Deluxe Type แต่ก็ไม่ใช่ห้องที่เล็กหรืออึดอัดจนเกินไป เรียกว่ายังไงก็นอนได้สบาย ๆ เพราะยังมีระเบียงส่วนตัวนอกห้องไว้ให้นั่งเล่นรับลมธรรมชาติกันอีกด้วย

05-01 05-02 05-03 05-04 05-05 05-06

…ผ่านพ้นไปกับห้อง Deluxe และ Superior ก็มาสู่พื้นที่ด้านนอกกันอีกครั้งกับบริเวณที่แบ่งเป็นห้องออกกำลังกาย / ห้องอ่านหนังสือสงบ ๆ ที่เราสามารถมานั่งเล่นได้ตลอดเวลากับบรรยากาศพักผ่อนสบาย ๆ เงียบ ๆ สงบ ๆ ที่ปล่อยให้เวลาไหลไปเรื่อย ๆ

06-01 06-02 06-03

…หลังจากนั้นก็ไปยังบริเวณของ “THAI PEPPERS RESTAURANT” ก็คือห้องอาหารที่มีวิวสวย ๆ ของแม่น้ำแควใหญ่ให้เราได้เห็นกันแบบแนบชิดติดริมน้ำท่ามกลางบรรยากาศอันร่มรื่นที่ปกคลุมด้วยต้นไม้ภายในยู อินจันทรีที่โตสูงบังร่มเงาให้เรารู้สึกสดชื่นอยู่ตลอดเวลา

…หรือถ้าใครอยากสดชื่นชุ่มฉ่ำมากกว่านี้ก็ลงสระว่ายน้ำได้เลย ซึ่งอยู่ข้างห้องอาหารนี่เอง ..

07-01 07-02 07-03

…บนพื้นที่เดียวกันก็ยังเป็นอีกโซนคือ “THE TERRACE” เรียกว่าเป็นมุมเด็ดของที่นี่เลยก็ว่าได้ เพราะนอกจากจะมุมรับประทานอาหารแบบร่มรื่น ๆ ใต้เงาไม้ด้วยแล้ว ก็ยังเป็นมุมนั่งเล่นด้วยเช่นกัน โดยสร้างเป็นระแนงไม้แบ่งมุมเล็กมุมน้อยเพื่อความเป็นส่วนตัวของผู้ที่มานั่งพักนั่งรับประทานอาหาร

…และแน่นอนเมื่อเราอยู่ริมน้ำอย่างนี้ไม่ว่าจะมองจากตรงไหน เราก็จะยังคงเห็นสะพานข้ามแม่น้ำแควอยู่ดี .. ว่าแล้วเห็น ๆ แต่เอื้อมไม่ถึง.. จัดการขับรถออกไปกันเลยดีกว่า

08-01 08-02 08-03 08-04 08-05 08-06

…ขับรถไม่ถึง 3 นาทีจากที่พักก็ถึงสะพานข้ามแม่น้ำแควแล้ว อ่านไม่ผิดหรอกครับ เพราะมันอยู่ใกล้กันจริง ๆ ระหว่างยู อินจันทรีกับสะพานข้ามแม่น้ำแควประมาณไม่เกิน 400 เมตร (จริง ๆ เดินเอาก็ได้นะ 555)… ออกจากโรงแรมเลี้ยวขวาขับมาตามทางก็ถึงแล้ว หาที่จอดรถกันได้เลยจากนั้นก็เตรียมเดินเล่น ถ่ายรูปกันโลด

…ผมเองมาเมืองกาญจน์อยู่ก็หลายรอบ แต่ด้วยบางทีเวลาน้อยทำให้ไม่ได้แวะมาที่สะพานข้ามแม่น้ำแควก็หลายปีอยู่ ครั้งนี้มาใกล้มาถึงตรงนี้แล้วก็ขอเดินเล่นนาน ๆ หน่อย ๆ ว่าแล้วก็ไปที่ป้อมสถานีเพื่อขอดูตารางรถไฟว่าจะมากี่โมง เพราะจะเป็นช่วงที่รถไฟชะลอแล่นช้า ๆ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เก็บภาพกันได้ง่าย ๆ แต่เราเองก็ต้องไม่ประมาท หรือทำอะไรให้เกิดอันตรายด้วย

09-1 09-2 09-3

…ฝากไว้ให้พอเป็นข้อมูลเกี่ยวกับตารางเวลาของรถไฟ

  • จาก กรุงเทพ – กาญจนบุรี – น้ำตก มี 3 ขบวน รอบเวลา 6.05 , 10.55 , 16.26
  • จากสถานีน้ำตก – กาญจนบุรี – กรุงเทพ มี 3 ขบวน รอบเวลา 7.12 , 14.36 , 17.31

…รู้อย่างนี้แล้วก็กะเวลาไปรอกันได้เลย ส่วนตัวผมที่ถ่ายมาในอัลบั้มนี้คือรอบ 16.26 น. รอบจากกรุงเทพแล่นมา แล้วก็รออีกหนึ่งชั่วโมงรอบ 17.31 น.ซึ่งเป็นรอบที่แล่นกลับไปทางกรุงเทพฯ

10-01 10-02

…บรรยากาศที่สะพานก็คึกคักด้วยทั้งจากคนที่อยู่แถวนั้น ไม่ว่าจะเป็นเด็กเล็กเด็กน้อย หรือจะเป็นนักท่องเที่ยวชาวไทยหรือต่างชาติก็แวะมาเที่ยวที่สะพานกันอยู่ตลอดเวลาตั้งแต่เช้าถึงเย็น ตัวสะพานนี่ถ้าไม่ใช่ช่วงที่จะมีรถไฟมา เราสามารถเดินเล่นได้สบายด้วยนะ เพราะมีจุดที่ให้ยืนหลบอยู่ตลอดทาง หรือแม้แต่ตรงกลางสะพานก็สามารถเดินได้ จะมีก็แค่ระวังข้าวของจะหล่น หรือไม่ควรประมาทเล่นอะไรแผลง ๆ ก็ปลอดภัย

11-0 11-2 11-3

…เมื่อถึงช่วงที่ใกล้เวลารถไฟจะแล่นมาก็จะสังเกตได้จากคนจะเริ่มทยอยกันยืนชิดริมสองข้างฝั่ง ใครอยู่บนสะพานก็ต้องไปเบียดกันยืนตรงบริเวณระเบียงไม้ที่ทำไว้ให้หลบเพื่อความปลอดภัย ส่วนใครที่อยู่พ้นจากแนวสะพานก็จะดีหน่อยตรงที่ไม่ต้องไปยืนเบียดบนสะพาน

…แล้วก็รอเวลารถไฟมาอย่างเดียว ตั้งกล้องเตรียมกล้องให้พร้อม .. ซึ่งข้อดีของรถไฟที่แล่นมาตรงนี้ก็คือจแล่นช้ามาก เรียกว่าเราไม่ต้องลุ้นว่าจะไม่ได้ภาพขอแค่ยืนให้ถูกที่ ไม่พาตัวเองไปยืนหรือเสี่ยงตายถ่ายภาพด้วยท่าทางเสี่ยง ๆ แปลก ๆ เราก็จะเที่ยวได้อย่างปลอดภัย

12-1 12-3 12-4

…แล้วก็ถึงเวลารถไฟมาระหว่างรอรถไฟก็เดินกลับภาพมุมนั้นมุมนี้ไปเรื่อย เราสามารถเดินข้ามไปยังอีกฝั่งได้ ร้านค้าร้านอาหารขายน้ำขนมผลไม้ก็มีอยู่ทั่วบริเวณสะพาน เดินแล้วเหนื่อย ๆ ร้อนแล้วอยากพักก็หามุมร่ม ๆ แวะซื้อน้ำนั่งกินได้เพลิน ๆ …รอเวลาไปเรื่อย ๆ จนได้ภาพที่ถูกใจแล้วก็กลับไปโรงแรมเพื่อรอถ่ายรูปบรรยากาศของยู อินจันทรีกับช่วงแสงเย็นกันต่อ

13-01 13-02 13-03

…ย้อนกลับมาที่ยู อินจันทรีอีกครั้งกับช่วงเย็นที่ได้เวลาถ่ายภาพภายในโรงแรมกับแสงไฟสวย ๆ ท้องฟ้าสวย ๆ ก่อนพลบค่ำ ตัวที่พักของยูนั้นออกแบบไว้เรียบง่าย เป็นอาคารสองชั้นมีพื้นที่เป็นสี่เหลี่ยมมีห้องเชื่อมต่อกันเรียงเป็นแถวตามในภาพ แต่ก็จะมีหลายโซนตามประเภทของห้องพัก

…ช่วงเย็นที่เปิดไฟตามห้องพักแล้วมองดูก็สวยงามกว่าจากตอนกลางวันมาก เพราะไฟจากตัวอาคาร และไฟหน้าห้องสีส้มนั้นมาตัดกับสีเขียวของสนามหญ้าด้านหน้าสวยงามตัดกันลงตัว

14-01 14-02 14-03

…เดินเล่นมาจนบริเวณริมน้ำอีกครั้งบอกเลยว่าตอนหัวค่ำที่นี่สวยมาก บรรยากาศดีสุด ๆ ลมพัดเย็น ๆ สายลมสายน้ำด้านหน้าก็เรียกว่าเป็นที่ผ่อนคลายสบาย ๆ ยามเย็นได้เลย ใครที่จะมาต้องรีบมานั่งยึดพื้นที่ไว้ก่อนเลยนะ 555 เดี๋ยวมุมสวย ๆ โดนแย่ง

…นั่งเล่นสักหน่อยสั่งอาหารสั่งเครื่องดื่มเย็น ๆ จิบสักแก้วสองแก้วรับรองเพลินท่ามกลางความเงียบสงบของธรรมชาติ และวิวด้านหน้าแน่นอน

15-01 15-02 15-03

…เงียบสงบร่มรื่นมากกับช่วงเย็นภายใน ยู อินจันทรี .. โดยเฉพาะบริเวณสนามหญ้า และทางเดินไปห้องอาหาร PEPPERS หรือเดินเล่นสู่ระเบียง THE TERRACE ยืนมองน้ำสงบนิ่งแล้วก็มีแต่สบายใจ สมกับเป็นวันพักผ่อนที่เปลี่ยนจากความวุ่นวายของเมืองกรุง หรือจากหน้าที่การงานมาผ่อนคลายอิริยาบถด้วยพลังแห่งธรรมชาติแบบนี้บอกได้คำเดียวว่าคุ้มค่าแก่การเดินทางมาก ๆ

16-01 16-02 16-03 16-04 16-05

…ตื่นเช้าวันรุ่งขึ้นด้วยอากาศที่สดชื๊นนน สดชื่นกว่าทุกวัน.. อาบน้ำล้างหน้าตื่นแล้วก็เดินมาเติมพลังกันก่อนเลยที่ห้องอาหารริมน้ำแคว ทางเดินผ่านก็คือสระว่ายน้ำที่ตอนนี้ยังโล่ง ๆ อยู่ ขอบสระก็จัดเตียงนอนเล่นวางไว้อย่างสวยงาม เรียกว่าเห็นแล้วอยากกลับไปนอนอีกทันที 5555

17-01 17-02 17-03

…เมื่อวานเราไปเที่ยวมาแล้วกับสัญลักษณ์อันดับหนึ่งของเมืองกาญจน์คือสะพานข้ามแม่น้ำแคว วันนี้ที่โต๊ะอาหารเช้าเราเลยตั้งคำถามกันว่าจะไปที่ไหนดี ก่อนสุดท้ายจะมาได้คำตอบที่ลงตัวกันว่าจะไปที่ “น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์” ที่เป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ของเมืองกาญจน์เช่นกัน

…ก็เป็นอันว่าหลังจากเสร็จสิ้นมื้ออาหารเช้าได้สักพัก เราก็เดินย่อยอยู่ในอิน จันทรีอีกสักใหญ่ ๆ จากนั้นก็เก็บข้าวของสัมภาระเตรียมเช็คเอาท์ออกจากโรแรมตอนประมาณ 10 โมง เพราะเส้นทางจากยู อินจันทรีไปถึงน้ำตกห้วยแม่ขมิ้นนั้นอยู่ที่ประมาณ 100 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง เราเองอยากขับไปเรื่อย ๆ ไม่ต้องเร่งรีบก็เลยตัดสินใจออกกันตั้งแต่ก่อนเที่ยงดูจะเป็นการดีที่สุด

18-1 18-2 18-3

…เดินทางครั้งนี้เราเช่ารถจาก AVIS THAILAND ขับมาเที่ยวกัน ก็เช่ารถกันมาตั้งแต่กรุงเทพฯ ที่สนามบินดอนเมืองโดยเพื่อนคนที่มาจากต่างจังหวัดพอลงสนามบินที่ดอนเมืองปุ๊บ เช่ารถมาแล้วก็ขับมุ่งหน้ามาสายใต้ใหม่เพื่อนัดเจอผม และเพื่อนอีก 2 คน.. นั่งกัน 4 คน รถเก๋งสบาย ๆ ครับวันพักผ่อนเส้นทางไม่มีอะไรให้หวั่นมาเมืองกาญจน์ขับรถง่ายอยู่แล้ว

…และในที่สุดก็มาถึงอุทยาน ค่าเข้าปัจจุบันนี้ราคาสำหรับยานพาหนะอยู่ที่ 30 บาท ส่วนคนไทยผู้ใหญ่ 100.- เด็ก 50.- / ต่างชาติผู้ใหญ่ 300.- เด็ก 200.- (แอบคิดว่าราคาค่าเข้าของคนไทยที่นี่แพงกว่าอุทยานหลาย ๆ ที่ที่เคยไปมาเหมือนกัน)

19-1 19-2 19-3 19-4

…สำหรับคนที่ขับรถมานั้นก็ขับมาด้านในอุทยานก็จะโผล่ที่น้ำตกห้วยแม่ขมิ้นชั้นที่ 4 พอดี ซึ่งชั้นอื่น ๆ นั้นก็จะต้องเดินขึ้น หรือเดินลงกันเอง ส่วนใครที่อยากพักค้างนอนก็มีเต๊นท์อุทยานกางไว้รองรับสะดวกเลย ไม่ต้องเสียเวลากาง ตัวน้ำตกทั้งหมดมี 7 ชั้น ชั้น 5-7 ช่วงที่มานี้(5 – 7 มกราคม 2560) ด้านบนไม่ค่อยมีน้ำ ส่วนด้านล่างเอง 1-4 ก็มีแค่บางชั้น แต่ชั้นไหนที่มีน้ำอยู่ก็ยังสามารถถ่ายได้สวย ๆ นะ ในภาพนี้ก็คือชั้นที่ 3

20-1 20-2 20-3

…และก็เดินลงมาเรื่อย ๆ สู่ชั้นที่ 2 ทางเดินตอนนี้ทำไว้เป็นบันไดไม้เดินสบายมากครับหากเทียบกับ 10 ปีก่อนที่ผมเคยมา(ไม่ได้มานานเกินไปหรือเปล่านี่ 5555) แต่ก็ไม่รู้นะครับว่าทำทางเดินไม้บันไดไม้ไว้นานแค่ไหนแล้ว แต่เท่าที่ดูบอกได้เลยว่าแข็งแรง ดูทนทาน และสะดวกต่อการเดินขึ้นลงมากผิดกับแต่ก่อนสมัยที่ผมยังต้องค่อย ๆ ไต่ขึ้นไต่ลงอยู่เลย

…แบบนี้เลยยิ่งทำให้เราเดินง่าย และมีเวลาหามุมถ่ายรูปได้นานมากขึ้น ..

21-1 21-2 21-3 21-4

…น้ำตกที่นี่ถ่ายห้วยแม่ขมิ้นนี่ถ่ายง่ายนะครับเพราะจะเป็นน้ำตกที่อยู่ภายใต้ร่มเงาส่วนใหญ่ ทำให้ปริมาณแสงนั้นไม่มากจนเกินไปเรียกว่ามือใหม่หัดถ่ายนั้นสามารถมาฝึกถ่ายภาพน้ำตกที่นี่กันได้ง่าย ๆ แล้วจะว่าไปเมืองกาญจน์ก็มีน้ำตกสวย ๆ อยู่หลายที่ด้วยเช่นกัน…อยากมีเวลาจะมาเก็บให้ครบทุกที่เลยทีเดียว

22-01 22-02 22-04

…และแล้ว 2 วัน 1 คืนกับวันพักผ่อนสบาย ๆ ก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ได้เที่ยวอย่างที่อยากไปได้ภาพสวย ๆ กลับมาแล้วยังได้นอนพักในโรงแรมที่บรรยากาศดีมาก ๆ สงบร่มรื่น มีธรรมชาติอย่างริมแม่น้ำแควเป็นวิวสวย ๆ ให้เห็นตลอดเวลาที่อยู่ในโรงแรม

…จะว่าไปแล้วหากใครอยากเปลี่ยนฟิวส์การเดินทางเป็นนั่งรถไฟมาที่ยู อินจันทรีผมว่าก็เท่ไม่น้อยนะ .. เพราะเราสามารถนั่งรถไฟมาได้แล้วอย่างที่บอกไปคือตัวสถานีรถไฟนั้นอยู่ห่างจากยู อินจันทรีไม่ถึง 400 เมตร สามารถเดินเข้าโรงแรมได้เลยขากลับก็นั่งรถไฟกลับ.. เป็นอีกโปรแกรมแนว ๆ ที่น่าสนใจไม่น้อย

…ราคาของห้องพักที่ยู อินจันทรีนั้นเริ่มต้นตั้งแต่ราคาประมาณ 2 พันกว่าบาท.. หากใครอยากลองเปลี่ยนบรรยากาศเปลี่ยนที่พักผ่อนมาเป็นที่นี่สนใจก็ลองเข้าชมรายละเอียดจากลิ๊งค์ได้เลยครับ.. แล้วไว้ว่าง ๆ ผมคงได้หาเวลากลับไปนอนที่นี่อีกแน่ ๆ เพราะเมืองกาญจน์นั้นยังมีที่เที่ยวอีกหลายที่ที่ผมยังไม่ได้ไปเลย.. แล้วไว้เจอกันใหม่นะจ๊ะ ยู อินจันทรี กาญจนบุรี ^^

เรื่อง / ภาพ : Forzanu : www.facebook.com/forzanufoto

FB PAGE : RAIN TREE RESIDENCE : https://www.facebook.com/Uinchantree.kanchanaburi/

OFFICIAL SITE : RAIN TREE RESIDENCE : http://www.uhotelsresorts.com/uinchantreekanchanaburi/

23-1 23-2 23-3

Facebook Comments
Please follow and like us:
20