…เชียงคาน.. ผมเคยไปครั้งแรกเมื่อตอนปี 2550 ยาวนานมาก 8 ปีแล้ว… แต่นับจากทั้งหมดที่เคยมาที่เมืองนี้ก็ประมาณ 3-4 ครั้งน่าจะได้ .. ผมมาครั้งแรกตั้งแต่สมัยที่เชียงคานยังเงียบ ๆ บ้านเรือนริมลำน้ำโขงยังเป็นไม้เก่า ๆ .. ด้านนึงติดถนนเล็ก ๆ ที่เป็นเส้นทางสัญจรทั้งรถจักรยาน ไปจนถึงรถใหญ่บนถนนความกว้างราว 6-7 เมตร ยาวไปตลอดแนว…
…ขณะที่ประตูฝั่งนี้ติดถนน ประตูอีกด้านของบ้านก็ถูกเปิดโล่งเพื่อเป็นทั้งทางลมพัด และเป็นด้านที่ต้อนรับเห็นสู่ฝั่งเพื่อนบ้านประเทศลาวที่มีเพียงลำน้ำโขงมหานทีกั้นความเป็นพี่เป็นน้องของบ้านใกล้เรือนเคียงกันไว้…
…วันเวลาค่อย ๆ ไหลผ่านไปเรื่อย… ผู้คน ยุคสมัย เทคโนโลยี ธุรกิจ ความเป็นอยู่ เดินไปตามกาลเวลาที่ทำให้ภาพของเชียงคานนั้นมีการเปลี่ยนแปลงไป …
…เย็นวันอาทิตย์ที่ 7 มิถุนาที่ผ่านมา.. ผมใช้เวลาเดินเล่นในขณะที่ฝนพรำเบา ๆ แต่ก็ปริมาณมากพอให้กล้องเปียกได้ง่าย ๆ .. เริ่มต้นเดินกันกับเพื่อนพี่และน้องที่มาร่วมงานด้วยกัน .. ก่อนผมจะค่อย ๆ ก้าวขาตัวเองให้เดินช้าลง เพื่อใช้เวลาอยู่คนเดียว .. กับมุมมองต่าง ๆ กับทัศนียภาพ กับสิ่งรอบตัวที่เจอ .. โดยมีเพียงกล้อง และถุงพลาสติกคลุมกล้องเท่านั้นที่ผมต้องดูแลอย่างดี …
…ภาพในอัลบั้มนี้ ไม่มีอะไรที่วุ่นวาย .. ผู้คนแทบจะไม่มี ฝนตกไม่มีใครออกมาเดิน … ทุกสิ่งที่ถ่ายมาเกิดจากการเปิดตา และมองสิ่งที่สายตาตัวเองมองว่าชอบจึงกดชัตเตอร์เก็บกลับมา.. โดยปราศจากการหามุมต่าง ๆ ให้วุ่นวาย … ความสุขที่ได้คือความสบายใจ ไม่ต้องคิดอะไรมาก .. สายตามอง หัวใจสั่ง .. ปล่อยให้สมองพักบ้าง…
… “ความสุขหาได้ง่าย แค่ที่เราพอใจนั่นแหละ”… สวัสดีเพื่อน ๆ ทุกคน .. ที่มาชมอัลบั้มกันนะครับ ^^
ป.ล. ขอบคุณสายการบินนกแอร์มาก ๆ ครับกับการเดินทางสู่ จ.เลย ทริปนี้…
******************************************************************************************************