…บ้านสีฟ้า ท้องฟ้าสีขาว “ป้อมปราการไอดูยะ”…
…Morocco : Rabat : Kasbah les Oudaias : ป้อมปราการไอดูยะ
…ขยายภาพกว้าง ๆ เริ่มกันที่ภาพของประเทศโมร๊อกโกประเทศที่ตั้งตัวอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของทวีปแอฟริกา และตอนใต้ของทวีปยุโรป.. โดยมีเมือง “ราบัต(Rabat)” เป็นเมืองหลวง และยังเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศโมร็อกโกอีกด้วย โดยพื้นที่ของเมืองราบัตนั้นอยู่ติดกับชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก(เท่สุด ๆ) ซึ่งอีกเมืองที่อยู่ติดกับราบัตและอยู่ติดชายฝั่งแอตแลนติกเหมือนกันก็คือเมือง “ซาเล(Sale’)” ดังนั้นสภาพอากาศพื้นที่แถบนี้ก็นับได้ว่าดีตลอดปี และด้วยสาเหตุนี้เองจึงส่งผลให้เมืองราบัตนั้นมีอุตสาหกรรมหลักของเมืองคือการท่องเที่ยวนี่เอง…
…ในอัลบั้มนี้จะพาไปเที่ยวกับหนึ่งสถานที่สำคัญที่มีความสวยงามทั้งด้านสถาปัตยกรรม และทางด้านทัศนียภาพวิวโดยรอบกันที่ “ป้อมปราการไอดูยะ : Kasbah les Oudaias” ก่อนอื่นมาแปลความหมายกันก่อนคือคำว่า “Kasbah” นี่จะหมายถึง ลักษณะของป้อมปราการที่ถูกสร้างขึ้นมาด้วยดิน และส่วนผสมต่าง ๆ อย่างน้ำ, ฟาง มาก่อสร้างรวมกัน(คนสร้างผมว่าเก่งแล้ว แต่คนคิดวิธีได้นี่ผมว่าเก่งสุด ๆ) ลักษณะของป้อมนี้ก็จะเป็นทั้งที่สามารถอยู่อาศัยได้ และเหตุผลหลักอีกอย่างก็คือไว้ป้องกันการโจมตี ซึ่งป้อมปราการ(Kasbah) นี้จะเป็นลักษณะของกำแพงสูง ๆ และไม่มีหน้าต่าง(ตามที่เห็นในภาพด้านล่างภาพแรกนี่เลย) ที่เขียนมาทั้งหมดนี่ก็คือความหมายรวม ๆ ของคำว่า “Kasbah” ซึ่งแปลเป็นไทยเราแล้วก็น่าจะได้ออกมาคำว่า “ป้อมปราการ” น่าจะลงตัวที่สุด..
…ตัวป้อมปราการภายนอกก็จะเป็นอิฐสีแดงขนาดมหึมาที่ล้อมรอบอาคารภายในไว้ เมื่อเดินเข้ามาด้านในก็เหมือนหลุดมาอยู่อีกโลกหนึ่ง โลกที่มีแต่สีฟ้า และสีขาว .. ทางเดินเป็นแบบแคบ ๆ ถนนลดเลี้ยวไปมา ซึ่งภาษาของโมร๊อกโกจะเรียกลักษณะแบบนี้ว่า “เมดิน่า(Medina)” โดยจะเป็นลักษณะของเมืองเก่าที่ออกแบบบ้านเรือนมาในลักษณะที่หนาแน่น มีทางเดินแคบ ๆ คดเคี้ยวไปทั่วตามตรอกซอกซอย และล้อมรอบด้วยกำแพงสูง …
…สถานที่แคบ ๆ แบบนี้จะเก็บภาพให้ได้ครบ ๆ ก็อยู่ที่อุปกรณ์ด้วยเช่นกัน ซึ่งการจะเก็บภาพให้ได้ครบตั้งแต่กำแพงฝั่งซ้ายไปจนกำแพงฝั่งขวา เลนส์ที่จะเก็บให้ได้ครบก็ไม่ต้องคิดมากครับตัวเดียวเลยช่วง 14-24mm F2.8 ตัวเก่งของ Nikon ที่ผมใช้ทุกการเดินทางอยู่แล้ว.. วันที่มาตรงกับวันหยุดสุดสัปดาห์พอดี ก็เลยมีนักท่องเที่ยวเยอะขึ้นมาหน่อย แต่ก็มีบางช่วงที่พอให้โล่ง ๆ อยู่บ้าง ก็รอไปครับกับบางมุมบางจังหวะที่อยากได้โล่ง ๆ ..
…ทางเดินเดินขึ้นมาเรื่อย ๆ นี่ก็เพลิน ๆ ดี เสียดายว่าท้องฟ้าวันนี้ไม่ค่อยแจ่มใส หมอง ๆ หม่น ๆ ไปหน่อย ถ้าฟ้าสวยเข้มคงตัดกับสีอาคารสวยสดแน่นอน .. ป้อมไอดูยะเป็นป้อมขนาดใหญ่มีด้วยกัน 2 ชั้น .. พื้นที่นั้นตั้งอยู่ริมมหาสมุทรแอตแลนติก ติดชายทะเลเลย .. ด้านในก็คือที่ผมเดินอยู่ที่เรียกว่า “เมดิน่า” ตามที่ได้บอกไป
…ได้เดินถ่ายภาพตรงนี้แล้วมีความสุขประมาณหนึ่งเลย เพราะสีสันของที่นี่รวมไปถึงสิ่งที่ต้องชื่นชมสุด ๆ เลยก็คือความสะอาดของพื้นที่(ลุกขึ้นยืนปรบมือให้สองนาที) .. พอที่เค้าสะอาดถ่ายอะไรออกมาก็ดูโล่ง ดูเคลียร์สบายตาไปหมด…
…กล้องที่ผมใช้ในทริปนี้คือ Nikon D750 เรื่องไฟล์ภาพไม่ต้องห่วง ความคมชัด จัดจ้าน และสดใสตามแบบฉบับนิคอนมาเต็ม ยิ่งได้เลนส์ดีดีอย่าง AF-S NIKKOR 14-24mm F2.8G ตัวนี้ด้วยแล้ว ภาพที่ได้มาก็สบายใจ .. ข้อดีของเลนส์ตัวนี้ที่ผมใช้มานานก็คือความบิดเบี้ยวนั้นน้อยมาก .. โอเคแหละ อาจจะมีบิดมีบวมไปบ้าง แต่ถ้าเทียบกับตัวอื่นแล้วผมว่าตัวนี้ที่สุดละ(ถ้าเราไม่ได้จงใจถ่ายให้บิดเบี้ยวเองก่อนนะ) อย่างในภาพล่างนี้ที่ผมจงใจแหงนมุมขึ้น แต่รูปถัดไปก็ยืนตรงปกติ…
…ระหว่างทางเดินก็สวนกับผู้คนกับนักท่องเที่ยวผ่านไปผ่านมามากมาย อากาศเย็น ๆ แต่ลมไม่ค่อยพัดผ่านลงมาสักเท่าไหร่ อาจเพราะลักษณะของป้อมที่เป็นพื้นที่แคบ ๆ แบบนี้ .. แต่ก็ไม่เป็นปัญหา เพราะการได้พบได้เห็นอะไรใหม่ ๆ ก็ทำให้เพลินได้อยู่ตลอดเวลา
…ว่าแล้วก็เปลี่ยนจากเลนส์มุมกว้างมาใช้เป็นเลนส์เทเลซูมบ้าง “AF-S NIKKOR 70-200mm f/2.8G ED VR II” เพื่อเก็บบรรยากาศให้หลากหลายมากขึ้น.. ข้อดีของเลนส์ตัวนี้คือภาพคมมากถึงคมสุด ๆ และใช้ระบบกันสั่น VR II แต่ข้อที่ทำให้เหนื่อยก็คือความหนักของเลนส์นี้แหละครับ แต่ก็ยอมแลกได้เพื่อภาพสวย ๆ ที่ได้กลับมา…
ป.ล. การจะถ่ายภาพชาวบ้านชาวเมืองที่โมร็อกโกนี่ก็ต้องระวังกันหน่อยนะครับ เพราะเค้าถือเรื่องสิทธิส่วนบุคคลมาก แต่ถ้าเป็นอย่างชาวบ้านที่แต่งตัวมาให้เราถ่ายโดยเฉพาะ เมื่อถ่ายแล้วก็ให้เงินเค้าสักหน่อยแบบนี้โอเคครับ
…ในที่สุดก็ผ่านพ้นจากแนวอาคารสีขาว ๆ ฟ้า ๆ น้ำเงิน ๆ มาจนถึงจุดชมวิวด้านบน.. ลักษณะก็เป็นลานกว้าง ๆ โล่ง ๆ เลยครับ มองได้ 360 องศา .. ที่กว้าง ๆ แบบนี้ไกล ๆ แบบนี้เก็บเลนส์วายด์ไปได้เลยเหลือเลนส์เทเลซูมเท่านั้นพอ ในภาพแรกที่เห็นอีกฝั่งออกไปนั่นคือฝั่งของเมือง “Sale’(ซาเล่)” ที่ตั้งตัวอยู่ตรงข้ามกับเมืองราบัตที่เรายืนอยู่ โดยมีแม่น้ำ “Bou Regreg” คั่นกลาง ซึ่งแม่น้ำนี้ก็คือปากทางของมหาสมุทรแอตแลนติกที่เราเห็นก่อนจะค่อย ๆ แคบลง..
…อากาศด้านบนยิ่งโดยเฉพาะจุดชมวิวนี้อากาศเย็นสบาย ณ วันนั้น 17 เมษายน อุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 24 – 28 องศา .. เสื้อยืดตัวแจ๊คเก๊ตตัวยืนเก๊กหล่อได้สบาย แต่พอเจอลมพัดมาแต่ละทีแทบหลบไม่ทัน.. หลายครั้งที่อากาศหนาวเรายังสู้ไหว แต่มาแพ้ก็เพราะกระแสลมนี่แหละ..
…เวลาช่างน้อยนิดที่เมืองราบัต.. ใช้เวลาอยู่ที่ป้อมปราการไอดูยะนี่ได้แค่ประมาณชั่วโมงเศษ ๆ ก็ถึงเวลาต้องเดินทางกลับ .. แม้จะไม่ได้ซึมซับอะไรที่เมืองหลวงราบัตนี้มากมาย แต่ก็ยังดีใจที่ได้มาสักครั้งให้ได้เห็นอะไร ๆ ที่สวยงามที่แปลกตาไปจากที่เคยได้เห็น… แล้วอย่าลืมติดตามกันต่ออัลบั้มหน้าที่เมือง “Casablanca” นะคร๊าบบบ..
…ส่งท้ายด้วยอัลบั้มภาพของป้อมปราการไอดูยะที่ลิ๊งค์ตามนี้ กดไปดูกันได้เลย http://forzanu.com/landscape-nature/kasbah-les-oudaias.html
…ขอบคุณ Napira Travel Stylist สำหรับการเดินทางที่สวยงามครั้งนี้…