รีวิวเที่ยวไทย : ตราด…รักทุกฤดู… ภาค SUN ESPACE

ตราด…รักทุกฤดู… ภาค SUN ESPACE

…ย้อนรอยความเดิมเส้นทางที่ 1 ตอน SEA ESPACE http://forzanu.com/landscape-nature/lovetratallseasons-seaespace.html

…มาถึงเส้นทางที่ 2 กับการเดินทางจาก อ.คลองใหญ่ สู่ จ.เกาะกง ประเทศกัมพูชา ที่ใช้พระอาทิตย์แทนคำเชื่อมโยงสื่อความหมายของการเดินทางเส้นนี้.. ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจกับจังหวัดเกาะกง กันก่อนเลยว่าไม่ได้มีสภาพเป็นเกาะที่มีทะเลล้อมรอบ จึงเป็นแค่ชื่อจังหวัดหนึ่งซึ่งอยู่ติดชายแดนของประเทศกัมพูชาเท่านั้น โดยจะมีส่วนของพื้นที่ที่เป็นชายทะเลเหมือนกับฝั่งคลองใหญ่บ้านเรา ซึ่งในอดีตนั้นเกาะกงก็เคยเป็นส่วนหนึ่งของประเทศไทย เดิมเรียก “ปัจจันตคิรีเขตร” จึงทำให้บางส่วนของคนในเกาะกงก็ยังพอพูดภาษาไทยได้บ้าง

…การเดินทางท่องเที่ยวข้ามไปยังฝั่งชายแดนกัมพูชาก็จะเริ่มต้นที่บริเวณบ้านหาดเล็ก ต.หาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จากจุดนี้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางโดยนั่งรถแท็กซี่จากชายแดนบริเวณบ้านหาดเล็กฝั่งประเทศกัมพูชาเพื่อที่จะไปเกาะกงได้ ราคาค่าโดยสารแล้วแต่จะตกลงกัน

…ในส่วนเรื่องของการข้ามแดนผมเขียนไว้ในตอนท้ายอัลบั้มนี้นะครับ

…วัดหลวงพ่อหมึก…

…เมื่อข้ามสะพานเกาะกงมาได้แล้วสถานที่แรกที่น่าสนใจที่คนนิยมเดินทางมาเคารพกราบไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคลก็คือ “วัดหลวงพ่อหมึก” วัดเก่าแก่ที่เป็นของคู่บ้านคู่เมืองของชาวจังหวัดเกาะกง ซึ่งอยู่ติดชายฝั่งทะเลเลย .. วันที่เราเดินทางมาอย่างที่เหมือนกันกับวันแรกคือสภาพท้องฟ้าไม่เป็นใจนัก ฝนฟ้าตกเพราะอยู่ในช่วงมรสุม แต่ยังดีว่าพอหยุดให้ถ่ายรูปได้บ้าง

…ก็เข้าไปฟังหลวงพ่อเทศน์ให้ธรรมเทศนากันประมาณ 30 นาที หลวงพ่อพูดภาษาไทยได้ชัดแจ๋ว เรียกว่าความรู้สึกเหมือนเที่ยวอยู่ในบ้านเรายังไงยังงั้น…  สุดท้ายก็มุ่งหน้าสู่สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจต่อไป..

…ล่องเรือชมน้ำตกตาไต…

…วันนี้เราจะเที่ยวตามเส้นทาง SUN ESPACE ด้วยกันทั้งหมด 3 ที่เจ๋ง ๆ ก็คือวัดหลวงพ่อหมึกที่ผ่านไปในช่วงเช้า มาถึงช่วงบ่ายกับการล่องเรือหางยาวชมความงดงามของธรรมชาติที่น้ำตกตาไต และผืนป่าโกงกางบางคะยัก.. แต่ก่อนจะไปป่าโกงกางเราไปล่องเรือชมน้ำตกกันก่อนครับ

…ใครที่อยากมาน้ำตกตาไตก็สามารถเรียกเช่ารถบริการจะแท๊กซี่ ตุ๊กตุ๊ก หรือรถบริการอื่นก็ได้ราคาน่าจะอยู่ที่ไม่เกิน 1,000 บาท แล้วแต่ความสามารถในการต่อรอง ..น้ำตกตาไตนั้นอยู่ห่างจากเขตชายแดนประมาณ 40 กิโลเมตร จะต้องจอดรถแล้วนั่งเรือหางยาวต่อเพื่อไปยังตัวน้ำตก ตัวท่าเรือที่ให้บริการราคาราว ๆ ลำละประมาณ 500 บาท (ราคาก็อาจมีเปลี่ยนแปลงไปบ้าง) ใช้เวลา 30 นาที …

…บรรยากาศดีครับเหมือนนั่งเรือหางยาวบ้านเรา แต่ได้วิวเป็นบ้านกัมพูชา.. ธรรมชาติสองข้างฝั่งคลองแม่น้ำนี่แน่นขนัดด้วยสีเขียวของต้นไม้ โชคดีเป็นของเรามากเพราะยังได้ท้องฟ้าที่ส่องแสงแดดลงมาให้พอตรงกับคอนเซปท์ของวัน SUN ESPACE ด้วย … เรื่องเที่ยวแล้วพกเงินว่าสำคัญแล้ว พกดวงมาด้วยนี่ยิ่งสำคัญกว่าเป็นไหน ๆ …

…น้ำตกตาไตนั้นความสวยงามก็จะแตกต่างกันไปตามฤดูกาล อย่างช่วงที่เหมาะสมหน้าฝนก็จะอยู่สักเดือนพฤษภาคม – กรกฎาคม ปริมาณน้ำจะเยอะกว่าช่วงอื่น .. หรือหากเป็นช่วงที่น้ำลดกว่านี้มันก็อาจจะสวยตรงที่เราจะได้เห็นโขดหินมากขึ้นบริเวณน้ำตก… ลงเรือแล้วใส่ชูชีพซะให้เรียบร้อยเพื่อความปลอดภัยจากนั้นก็ชิวล์กันยาว ๆ เกือบครึ่งชั่วโมง .. จนโค้งสุดท้ายต้องใช้คำนี้จริง ๆ เพราะพอพ้นโค้งปุ๊บเราก็ตะลึงกับภาพตรงหน้าปั๊บ…

…นี่เลยครับอย่างที่บอกพอพ้นโค้งน้ำปุ๊บ ภาพของน้ำตรงขนาดใหญ่ก็อยู่ต่อหน้าต่อตาเราทันที.. เห็นสีขาว ๆ ฟุ้ง ๆ อยู่ไกล ๆ นั่นก็คือน้ำตก เรือหางยาวก็ค่อย ๆ แล่นเข้าไปทีละช้า ๆ เพื่อทำการเทียบฝั่งจอดให้สำหรับใครที่อยากเดินไปชมความงามแบบใกล้กว่านี้ .. และสิ่งที่จำเป็นที่สุดก่อนที่จะเรือจอดถึงฝั่งเราก็ควรรีบถ่ายรูปกันก่อนเลย เพราะจะได้มุมหน้าตรงแบบชัด ๆ ให้เอาไปอวดให้เพื่อน ๆ เห็น…

…สำหรับผมแล้วผมว่าเป็นน้ำตกที่เท่มาก เพราะเท่าที่นึก ๆ ดูไม่แน่ใจว่าบ้านเรามีน้ำตกในลักษณะนี้หรือไม่ ที่เรานั่งเรือไปแล้วเห็นน้ำตกใหญ่ ๆ อลังการ ๆ อยู่ตรงหน้าเราเลย .. นี่จึงเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำอีกช่วงหนึ่งของการเดินทางครั้งนี้เลย … ก่อนที่เรือจะจอดแล้วปล่อยให้เดินเข้าไปอีกนิดนึงเพื่อสัมผัสน้ำตกให้ใกล้กว่านี้ .. ส่วนผมสภาพร่างกายไม่เต็มร้อยจึงขออยู่แต่ในเรือต่อไป…

…ป่าโกงกาง BANG KAYAK (บางคะยัก)…

…ผ่านไปกับน้ำตกสุดอลังการมาถึงความอลังการที่เป็นอันดับหนึ่งของทวีปเอเชียนั่นคือ “ผืนป่าโกงกางป่าชายเลนที่อุดมสมบูรณ์ที่สุด และมีพื้นที่ขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชีย” จัดพื้นที่ไปเบา ๆ ที่ 25,000 ไร่ .. เห็นตัวเลขแล้วลองมานึกความยิ่งใหญ่แล้วแทบอยากจะขอสัก 10% มาให้ประเทศเราจริง ๆ …

…การเดินทางสู่ป่าโกงกางบางคะยักก็ยังใช้วิธีเดิมครับ คือเหมารถเช่าบริการถ หรือหากลองดูที่บริเวณชายแดน หรือตกลงกับคนขับว่าถ้าเราจะเหมาซื้อเป็น One Day Trip เลยก็น่าจะได้

…เมื่อมาถึงที่นี่แล้วถ้าไม่เดินบนสะพานคอนกรีตที่ทำเป็นทางเดินไว้ให้ เราก็สามารถนั่งเรือชมบรรยากาศได้เช่นกัน แต่ผมแนะนำเลยว่ายังไงก็ต้องนั่งเรือให้ได้เพราะหากเราเดินเราจะไปอยู่ในผืนป่าชายเลน โดยไม่เห็นสภาพรอบนอกมองเข้ามา .. ดังนั้นนั่งเรือเที่ยวแล้วให้คนเรือมาส่งลงตรงทางเดินที่สามารถเดินกลับได้ อันนี้จะได้ครบแน่นอน

…ผมเคยนั่งเรือเที่ยวป่าชายเลนป่าโกงกางในบ้านเรา เอาตรง ๆ จากใจก็ว่ารู้สึกดีมากนะ เพราะป่าชายเลนพอต้นไม้สีเขียว ๆ แล้วตัดกับท้องฟ้าสีสวย ๆ แดดดีดี.. มันคือธรรมชาติที่ลงตัวเป็นอะไรที่สวยงามมาก พอมานั่งในวันนี้แม้ฟิวล์บรรยากาศจะไม่ต่างจากเดิมเท่าไหร่ แต่ที่ตื่นตาตื่นใจคือความกว้างใหญ่ของผืนน้ำ ของขนาดป่าตรงหน้าที่เราเห็น .. ยิ่งพอรู้ว่า 25,000 ไร่ ทำให้รู้เลยว่าแค่ที่เห็นนี่เพียงเศษเสี้ยวที่อาจจะยังไม่ถึง 1% เสียด้วยซ้ำ..

…เป็นอีกสถานที่ที่ผมว่าเจ๋ง และเท่สุด ๆ เลยกับ “น้ำตกตาไต” และ “ป่าโกงกางบางคะยัก” .. ใครที่ข้ามแดนมาฝั่งนี้แล้วลองหาบริการรถเช่าเหมาดู ส่วนเรื่องขับรถเที่ยวเองผมว่าไว้ก่อนดีกว่าเพราะถนนที่นี่ขับตรงข้ามกับบ้านเราอาจเกิดการสับสนได้ เพื่อความปลอดภัยและความทั่วถึงก็ถือว่ากระจายรายได้ให้กันไปครับ

…มาถึงเรื่องการเดินทางข้ามแดนพอคร่าว ๆ ก็ตามนี้ครับ

…มีรถตู้บริการนักท่องเที่ยวที่ตัวเมืองตราดไปบ้านหาดเล็กทุกวัน มีรถออกแทบทุกชั่วโมง ค่าโดยสารอยู่ที่ราว ๆ 100 กว่าบาท(ราคาก็อัพเดทไปตามวันเวลานะครับ) โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที จากนั้นนักท่องเที่ยวสามารถที่จะเดินทางต่อจากบริเวณชายแดนด่านถาวร บ้านหาดเล็กข้ามไปใช้บริการจะนั่งรถแท็กซี่ หรือสามล้อของฝั่งประเทศกัมพูชาข้ามสะพานไปเที่ยวยังจังหวัดเกาะกงได้

…เอกสารในการใช้เพื่อทำการข้ามแดนก็ตามนี้ครับ บัตรประชาชน หนังสือเดินทางพาสปอร์ต หรือสอบถามข้อมูลก่อนเดินทางได้ที่ จุดตรวจชายแดนบ้านหาดเล็ก โทร. 039-588-084

…ก็เป็นอันจบตอน 2 จากนั้นต่อกันเลยครับไปเที่ยวเกาะกูดกันที่ตอน 3 ตามลิ๊งค์เลยจ้า http://forzanu.com/review/lovetratallseasons-sandespace-html.html

Please follow and like us:

20