…360 องศา กับวิวสูง ๆ จุดชมวิว Rooftop Bar บนดาดฟ้าที่สูงที่สุดในประเทศไทย…

…มีโอกาสไปแฉลบยกระดับพื้นที่การชมวิวที่ตึกมหานครมาครับ แต่ไม่ได้ไปคนเดียวชวนเพจ @GVenture (เพจเที่ยวสไตล์วิถีชุมชนใหม่ ๆ ให้เปลี่ยนบรรยากาศมาขึ้นตึกสูง ๆ บ้าง ใครไม่เคยได้ยินลองตามไปดูได้ https://www.facebook.com/GVentureThailand) กับอีกเพจท่องเที่ยว @NapiraTravelStylist https://www.facebook.com/TravelStylistNapira ) ไปเป็นเพื่อนด้วย.. เลยเอาภาพสวย ๆ มาฝากเพื่อน ๆ กันกับภาพของเมืองหลวงในมุมมองแบบสูง ๆ ชนิดที่ว่าขึ้นตึกที่สูงที่สุดในประเทศไทยกันเลย จะมีมุมไหนสวย มีรายละเอียดเพิ่มเติมอะไรยังไงเลื่อนชมเลื่อนอ่านกันไปได้เลย

• สถานที่ : ตึก คิงเพาเวอร์ มหานคร (King Power Mahanakhon)

• เวลาเปิด – ปิด : 10.00 – 24.00 น.

• การเดินทาง : สะดวกสุดก็รถไฟฟ้า BTS ช่องนนทรี ทางออก 3 … ลงปุ๊บถึงปั๊บ

• ช่องทางจำหน่ายตั๋ว : ล๊อบบี้ชั้น 1 ของอาคาร • ราคาบัตร : มี 2 ประเภท

– แบบที่ 1 : มหานคร สกายวอล์ค จุดชมวิวภายในอาคาร ชั้น 74 / ผู้ใหญ่ 850 .- / เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี และผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป 250.-

– แบบที่ 2 : มหานคร สกายวอล์ค และรูฟท็อปบาร์ จุดชมวิวภายใน และภายนอกอาคาร ชั้น 74 และชั้น 78 / ผู้ใหญ่ 1,050 .- / เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี และผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป 450.- แต่บางช่วงก็มีโปรโมชั่นราคาประหยัดมาให้ ต้องลองเช็คดูกับสถานที่เรื่อย ๆ ••• (อย่างภาพเซ็ทนี้ผมก็ขึ้นไปช่วงที่ทางอาคารจัดงาน Bangkok – Hong Kong Street Battle Food เมื่อกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา บัตรลดเหลือประมาณ 750.-)

• ส่วนข้อมูลแนะนำเพิ่มเติม ตามแต่ละภาพก็มีบอกอยู่บ้างกดอ่านกันได้เลยเผื่อเป็นแนวทางสำหรับคนที่คิดจะขึ้นไปถ่ายรูปวิวให้คุ้มค่าสมกับราคาที่จ่ายไป.. …ว่าแล้วก็ไม่ต้องรอช้า.. ตามไปชมภาพสวย ๆ ของกรุงเทพมหานครในแบบสูง ๆ กันได้เลย… #ForzanuFoto #เที่ยวผ่านเลนส์ #GVenture #NapiraTravelStylist

——————————————-

…บรรยากาศของนักท่องเที่ยว คือเนื่องจากเป็นแหล่งช๊อปปิ้งด้วยก็จึงมีทั้งนักท่องเที่ยวที่มาเอง หรือไม่ก็มากันเป็นคณะทัวร์ เลย ใครที่จะคิดมาถ่ายช่วงแสงเย็นโพล้เพล้ก็ควรมาเผื่อเวลาสักหน่อย

…ชั้นที่สูงที่สุดของตึกมหานครก็คือชั้น 78 .. (ขึ้นจากชั้น 1 > 74) (แล้วก็ขึ้นบันไดเลื่อนมา 75 ต่อลิฟท์แก้วขึ้นชั้น 78) ที่เห็นด้านล่างคือบริเวณ Glass Tray พื้นกระจกให้ไปถ่ายรูปแอ๊คชั่นเสียว ๆ กัน

…เอาจริงชั้น 74 (เป็นกระจกล้อมรอบ) หรือ ชั้น 78 ก็ยังถ่ายรูปลำบากเพราะติดกระจกมันก็จะสะท้อนโน่นนี่นั่นเต็มไปหมด.. จะดีที่สุดคือต้องขึ้นมาดาดฟ้ารูฟท๊อปนี่แหละ ถามว่ามีกระจกมั้ย..ก็มี แต่ยกขาตั้งกล้องให้สูงก็พ้นแนวกระจก หรือถ้าแสงยังไม่หมดก็ถือกล้องถ่ายเลยสะดวกสุด

…วันที่มาอากาศค่อนข้างเป็นใจ.. คือเป็นใจให้กลับมาใหม่มาก ๆ เพราะฟ้าไม่เคลียร์ สภาพแสงไม่ได้ ไหนจะปริมาณฝุ่น PM 2.5 ที่ยังไม่ไปไหนสักเท่าไหร่ภาพก็ออกมาอย่างที่เห็น

…หนทางแก้ไขในวันฟ้าเน่าคงไม่มีอะไรเหมาะสมไปกว่าการปรับ White Balance เล่น หรือไม่ก็มาปรับต่อจะในแอพ ในโปรแกรมไหนก็แล้วแต่ถนัด

…ช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่จะมาถ่ายอันนี้ก็คงแล้วแต่คนแหละว่าใครอยากได้ภาพช่วงไหน แต่ถ้าจะเอาฟินยืนแบบมีลมพัดมาเย็นสบาย ๆ ก็ไม่พ้นช่วงเย็น ๆ แม้จะต้องเบียดเสียดกับผู้คนหน่อยแต่ก็น่าจะดีกว่ามาตอนกลางวัน หรือบ่าย ๆ แดดเปรี้ยง ๆ

…พอมายืนอยู่ด้านบนแล้วมุมเล็กมุมน้อย มุมเจาะ ๆ ที่ซูมผ่านเลนส์ไปก็ทำให้เห็นอะไรได้อีกเยอะ …ดังนั้นจำเป็นเลยสำหรับใครที่คิดจะขึ้นมาแบบจริงจังต้องมีเลนส์เทเลเพื่อดึงเอาความเด่น เจาะเอามุมของแต่ละตึกออกมา

…ฟ้าวันนั้นก็จะสภาพประมาณนี้.. ห่อเหี่ยวหัวใจกระไรเอย …กับมุมที่เห็นตึกล้อมสีเขียว ๆ .. วิวด้านบน 360 องศา สามารถเลือกเดินหามุมกันได้เลย คนเยอะบ้างบางมุม บางมุมก็น้อย บางมุมคนก็ยืนแช่กันนาน.. ก็ใจเย็น ๆ

…แม้อากาศจะไม่เป็นใจแต่ความสนุกในการถ่ายรูปก็ไม่ได้ลดลงเลย(เพราะเสียตังค์ขึ้นมาแล้วไง) ก็หาอะไรถ่ายเล่น เก็บมุมนั้นมุมนี้ไปเรื่อย ทั้งแบบกว้าง ๆ หรือเจาะ ๆ หรือหาอะไรน่าสนใจในแต่ละมุมดู

…เมืองล้อมป่า… พื้นที่สีเขียวของกรุงเทพฯ ต้องบอกว่าน้อยมากจริง ๆ และนี่ก็คือหนึ่งในสวนสาธารณะอีกแห่ง “สวนลุมพินี”..

…พออากาศไม่เคลียร์ก็เลยทำให้เห็นได้ไม่ไกลเท่าไหร่นักกับอะไร ๆ ที่ไกลออกไป.. ก็ต้องหามุมเอาหน่อย บางทิศก็ยังเห็นพอได้อยู่ แต่บางทิศก็ขมุกขมัวเหลือเกิน

…ภาพนี้ก็เป็นอีกภาพที่ชอบมากของอัลบั้มนี้ ตึกสีดำ ตึกสีขาว บังวัดทั้งสองตึกเลย.. พยายามหลบมุมแล้วก็ได้ประมาณนี้

…มุมนี้เห็นแม่น้ำเจ้าพระยาแบบเต็ม ๆ มองไปไกล ๆ ก็เห็นไปถึงวัดอรุณได้ด้วยการซูมของเลนส์.. งานนี้อุปกรณ์เป็นสิ่งสำคัญต้องเตรียมมาให้พร้อม กล้อง เลนส์ ขาตั้งกล้อง

…ความสนุกของการถ่ายภาพก็คือการหามุมถ่ายไปเรื่อย ๆ แบบไม่ต้องเร่งรีบ และความสนุกในลำดับต่อมาก็คือการเอาภาพมาโปรเซสปรับโน่นนี่นั่นให้ได้ภาพออกมา จะเหมือนจริงหรือไม่เหมือนจริงก็แล้วแต่เรา..

…นี่คืออีกกิจกรรมยอดฮิตเมื่อขึ้นมาสกายวอล์คก็คือการมายืนแอ๊คชั่นเก๊กท่าถ่ายรูปที่ Glass Tray พื้นกระจกลอยฟ้าที่พร้อมสร้างความหวาดเสียวเมื่อไปยืนอยู่ตรงนั้น

…ที่เห็นในภาพที่มีคนนั่งริมกระจกคือชั้น 78 ที่บอกไปว่าถ้าถ่ายรูปจะติดกระจก แต่ถ้าขึ้นไปด้านบนจะถ่ายง่ายเพราะกระจกจะเตี้ยกว่า..

…ใครที่ขึ้นมาจะชวนแฟนมาสวีทหวานสร้างบรรยากาศที่นี่ก็มีค๊อกเทลและเครื่องดื่มให้เคล้าคลอบรรยากาศกันด้วย(ราคาเท่าไหร่ไม่รู้นะ เพราะขึ้นมาถ่ายรูปอย่างเดียว)

…วันที่มาถ่ายคือ 17 มีนาคมตรงกับวันอาทิตย์ ซึ่งจำนวนนักท่องเที่ยวก็มีค่อนข้างเยอะ.. ข้อดีคือแม้นักท่องเที่ยวจะเยอะ แต่ส่วนใหญ่ก็จะถ่ายรูปกันด้วยมือถือ หรือไม่ก็กล้องเล็ก ส่วนตากล้องแบบจริงจังที่แบกขาตั้งกล้องขึ้นมานี่มีอยู่แค่ 2-3 คนเอง…

…เทคนิคการถ่ายภาพไฟกลางคืนให้ได้แฉกสวย ๆ เหมือนในภาพไม่มีอะไรมากมาย..

…ปรับรูรับแสงให้แคบ ๆ เข้าไว้ อย่างภาพนี้ f/13 (หรือใครอยากปรับไปให้แคบกว่านี้ก็ได้) ส่วนสปีดชัตเตอร์ก็แล้วแต่ว่าเราดูภาพที่่ถ่ายนั้นมืดไปสว่างไปก็ปรับสปีดเอา ส่วน ISO ก็เลือกต่ำ ๆ ไว้ก็ดี .. ใช้ขาตั้งกล้องแล้วเปิดได้หลายวินาทีก็สบายใจ

…อย่าลืมปรับ White Balance เพื่อดูผลลัพธ์ขณะถ่ายภาพตอนนั้น ๆ ด้วยเพื่อจะได้เห็นโทนสีของภาพ อารมณ์ของภาพ บางทีมุมเดียวกันแต่แค่คนละโทนสี ความรู้สึกที่เห็นก็แตกต่างกันแล้ว

…ปิดท้ายที่ภาพนี้.. พร้อมกับข้อแนะนำต่าง ๆ สรุปไว้ด้านล่าง.. ส่วนใครที่ถูกใจชอบใจอัลบั้มนี้อยากไปถ่ายรูปที่นี่อยากชวนใครไปก็แท็ก แชร์ได้ตามสบาย.. หรือจะไปคนเดียวดูภาพไว้เป็นไกด์ไลน์ก็หวังว่าอัลบั้มนี้จะมีประโยชน์บ้างนะครับ

• ช่วงเวลาที่น่ามาถ่ายรูป • 

– ผมแนะนำวันธรรมดาเลยครับ เพราะนี่มาวันอาทิตย์ออฟฟิศต่าง ๆ ไม่ทำงาน ดังนั้นช่วงหัวค่ำกลางคืนไฟจากสำนักงานต่าง ๆ ก็จะไม่ค่อยเปิดกัน ทำให้ภาพขาดสีสันไปพอควร.. แต่ถ้ามาวันทำงานพวกตามตึกออฟฟิศที่ทำงานก็อาจเปิดไฟไปถึงกลางค่ำกลางคืน

– จะให้ดีหน่อยช่วงเย็นน่าจะเป็นช่วงที่คนมาถ่ายภาพเยอะที่สุด เพราะได้บรรยากาศของพระอาทิตย์ตก.. ก็ควรมาเพื่อเล็งมุมเล็งเหลี่ยมเผื่อเวลาไว้แต่เนิ่น ๆ เพื่อจะได้ไม่ต้องรีบ ๆ ล่ก ๆ เมื่อถึงช่วงเวลาสำคัญอย่างช่วงทไวไลท์

• อุปกรณ์ถ่ายภาพ • 

– กล้อง เลนส์ แล้วแต่สะดวกใครใช้แบบไหน แต่ที่จะขาดไม่ได้เพื่อภาพที่มีคุณภาพก็คือขาตั้งกล้องที่จะช่วยให้เราบันทึกภาพได้อย่างมั่นใจ ปรับค่ากล้องต่าง ๆ ได้เต็มที่โดยไม่ต้องกลัวภาพเบลอ ภาพสั่น

…ส่วนที่จะขาดไม่ได้เลยอีกอย่างก็คือ.. “ดวง” ใครมาวันไหนก็ขอให้อากาศดี ฟ้าสวย มีแสงสวรรค์พุ่งทะลุเมฆส่องแสงลงมาเป็นลำ ๆ กันสวย ๆ .. ไหน ๆ เสียตังค์ขึ้นมาแล้วขอให้สมดังใจทุกคนนะครับ ^^

Facebook Comments
Please follow and like us:
20