… “Stanley MiniVenture” ย่อโลกใบใหญ่ให้เหลือใบเล็กกับเมืองมนุษย์จิ๋วแห่งแรกในเมืองไทย…
…คุณเป็นอีกคนหนึ่งที่เบื่อโลกใบใหญ่ ๆ กันใช่ไหม เพราะโลกใบนี้นับวันยิ่งวุ่นวายมากขึ้นเรื่อย ๆ แม้จะมีที่เที่ยวใหม่ ๆ เผยโฉมให้เราได้เห็นได้ไปกันอยู่เรื่อย ๆ แต่สุดท้ายก็ยังอยู่บนโลกใบเดิม .. แบบนี้ต้องลองมาสัมผัสประสบการณ์มุมมองการเที่ยวแบบใหม่ที่ย่อเมืองในรูปแบบต่าง ๆ ให้เหลือขนาดไซส์มินิกับของจิ๋วเมืองจิ๋วเหมือนโดนไฟฉายย่อส่วนโดราเอม่อนยังไงยังงั้นกับที่เที่ยวที่ใหม่ใจกลางกรุงเทพ “Stanley MiniVenture” เมืองจำลองเมืองคนจิ๋วแห่งแรกในเมืองไทย และใหญ่ที่สุดในเอเชีย…
…การเดินทางก็ไปง่ายแสนง่ายนั่งรถไฟฟ้าบีทีเอสลงสถานีเอกมัย ทางออกที่ 4 แล้วเดินเข้าห้างดิจิตอล เกตเวย์เอกมัย จากนั้นก็เดินขึ้นไปยังชั้น 2 .. เป็นอันเตรียมพบกับประสบการณ์ใหม่ ๆ กันได้เลย
…ส่วนผมเองที่ได้ไปมาก็เพราะเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ได้ไปเดินงานท่องเที่ยวที่ศูนย์สิริกิติ์แล้วผ่านบูธของ Stanley MiniVenture ซึ่งลดราคาอยู่ก็เลยสอยมาหนึ่งใบ.. จนได้วันว่าง ๆ วันธรรมดาไปเดินเล่นเลยเก็บภาพมาฝากให้เพื่อน ๆ ชมกันครับว่าแล้วก็ตามไปกันโลด
***อุปกรณ์ที่ใช้ถ่ายภาพเซ็ทนี้ : Nikon D4 / Nikon 35 1.4 / Nikon 70-200 2.8
…ด้านหน้าทางเข้าจะมีเค้าน์เตอร์จำหน่ายตั๋วอยู่ถ้าใครซื้อคูปองมาจากไหนก็ให้เอาไปยื่น หรือถ้าใครมาซื้อตอนมาถึงก็ที่เค้าน์เตอร์ได้เช่นกัน จากนั้นก็เตรียมเดินทางเข้าสู่อีกโลก ๆ หนึ่งแห่งมุมมองแบบจิ๋ว ๆ ..
…เมื่อเดินเข้ามาด้านในก็จะเป็นลักษณะของห้องกว้าง ๆ ใหญ่ ๆ แบ่งเป็นโซนผังเมืองต่าง ๆ เริ่มกันที่โซนแรกนี่เลยกับ “Resource Town : เมืองแห่งทรัพยากร” .. ที่เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการทำเหมืองแร่ อุตสาหกรรม การก่อสร้าง วิศวกรโยธา ทุกแขนงที่เกี่ยวกับแนวนี้ทางผู้สร้างก็นำมารวมมาวางไว้อยู่ในโซนเมืองนี้
…ครั้งแรกที่เดินเข้ามาก็รู้สึกว่าแปลกดี เพราะไม่เคยเห็นเมืองจิ๋วที่มีรายละเอียดเยอะขนาดนี้มาก่อน เอาแค่เวลาไปเจอโมเดลหมู่บ้านก็ว่าน่ารักแล้ว นี่มากันเป็นเรื่องราวมาเป็นจริงจังก็รู้สึกทึ่งในการหาชิ้นส่วนการประดิษฐ์การนำวัตถุดิบมาใช้ที่บอกได้คำเดียวว่าเนียนมาก
…Stanley MiniVenture นั้นเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยเราครับ เพราะคนสร้างก็คือชาวไทยเรานี่เอง.. ตอนแรกที่ผมเห็นในรีวิวอื่น ๆ ก่อนมายังคิดว่าเป็นของต่างชาติด้วยซ้ำ แต่พอได้หาอ่านหาข้อมูลเพิ่มเติมถึงได้รู้ว่าเป็นผลผลิตฝีมือจากคนไทยเรานี่เอง
…จากผังเมืองต่าง ๆ จะแบ่งเป็นโซน ๆ ซึ่งมีด้วยกันทั้งหมด 9 โซนในปัจจุบันนี้ แต่อีกหน่อยก็จะมีโซนอื่นเพิ่มขึ้นมาด้วย.. ว่าแล้วก็ย้ายโซนกันไปโซนที่ 2 ต่อเลยดีกว่า
… “Organic Farm : เมืองแห่งเกษตรกรรมและปศุสัตว์”… เมืองนี้ก็จะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการทำฟาร์ม การใช้ชีวิตแบบวิถีเกษตร มีฟาร์มมีปศุสัตว์มีคอกม้า แกะ วัว บ้านในหุบเขาต่าง ๆ .. ส่วนของโมเดลจิ๋วผมเห็นแล้วยิ่งมองยิ่งน่ารัก ไม่รู้ไปหากันมาจากที่ไหนต้องชมเชยคนสร้างและคนออกแบบที่ก็วางแบบแปลนได้ลงตัวมาก
…ความสนุกของการเที่ยวที่นี่คือการได้เห็นอะไรน่ารัก ๆ ที่บางทีในชีวิตจริงมันอาจจะเป็นไปไม่ได้ หรือเป็นไปได้ยากกับชีวิตเรา อย่างเช่นปาร์ตี้งานเลี้ยงในฟาร์ม มีเพื่อนบ้านมาสนุกสนาน มีธรรมชาติอยู่รอบ ๆ งานนี้ถ่ายภาพอย่างเดียวไม่พองานมโนต้องมาด้วย 5555 สมมติติ๊ต่างเอาว่าเราเป็นหนึ่งในตัวละครของได้เดินไปเมืองนั้นเมืองนี้ ยิ่งทำให้เพลินดีนะครับ
… “Residential and Historical Town : เมืองแห่งเรื่องราวและประวัติศาสตร์”.. ชื่อเมืองนี้บอกอยู่แล้วว่าจะได้เจออะไรต่าง ๆ มากมายในเมือง ๆ นี้บ้าง และที่สำคัญสไตล์ของหมู่บ้านก็เป็นแบบสมัยย้อนยุคไปยังประวัติศาสตร์สมัยก่อน โซนนี้จะใหญ่มากรายละเอียดของเมืองยิ่งเยอะ เราสามารถเดินถ่ายภาพเจาะได้มุมสวย ๆ อยู่หลายมุมเลย
…จากภาพนั้นจะเห็นแสงไฟนั้นมืด เพราะภายในห้องแสดงเมืองจำลองนั้นไฟที่เปิดนั้นจะสลับวนไประหว่างแสงกลางวันและกลางคืน ดังนั้นช่วงเวลาที่ถ่ายได้ง่ายก็คือตอนกลางวันประมาณเกือบนาทีแล้วก็จะค่อย ๆ สลัวเป็นตอนกลางคืนอีกสักพักนึง แล้วแสงก็ค่อยกลับมาสว่างอีกครั้ง.. เรียกว่าเราจะได้สัมผัสกับบรรยากาศทั้งสองรูปแบบในช่วงเวลาภายใน 5 นาทีได้เลย
…ส่วนใครจะเลือกถ่ายตอนไหนก็แล้วแต่ส่วนผมเน้นกลางวันเยอะหน่อย กลางคืนน้อยหน่อย.. เพราะไม่ได้นำขาตั้งกล้องไปก็อาศัยเร่ง ISO จากกล้องเอา.. ซึ่งกล้องที่ผมและเลนส์ที่ผมเอาไปถ่ายก็คือ Nikon D4 ตัวนี้เร่ง ISO ได้สบาย ๆ กับภาพที่ไม่ได้ใช้งานอะไรจริงจังแบบนี้ยิ่งช่วยให้ถ่ายภาพได้ง่ายขึ้นมา.. ส่วนเลนส์ที่ใช้ก็คือช่วง 35 mm / 70-200 mm ..
…ส่วนอันนี้แนะนำเลยครับใครที่เอากล้องใหญ่ไปให้ติดเลนส์เทเลซูมไปด้วยเลยแล้วไปซูมเอาเพราะในแต่ละเมืองนั้นมีอะไรให้เจาะให้เห็นเยอะแยะมากมาย ไม่ว่าจะเป็นรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ คนสร้างก็ใส่ใจเอามาลงเป็นเรื่องราวของแต่ละเมืองได้แบบเนียน ๆ เหมือนกับชีวิตจริงไงงั้น…
…ยังไม่ไปไหนครับยังสาละวนอยู่ที่เมืองนี้ 5555 อย่างที่บอกว่าพอกลางคืนภาพที่เราเห็นมันก็จะสวยงามไปอีกแบบต่างจากตอนระหว่างวัน ช่วงนี้จะขับแสงไฟตามท้องถนนหนทางให้เห็นโบเก้สวย ๆ เห็นสีสันของไฟยามค่ำคืนได้น่าดูชม.. สนุกสนานเพลินอุรามาก ..
…!!! อ้อ แต่ที่สำคัญ ต้องระหว่างเรื่องการถ่ายภาพก็คือระวังเลนส์จะไปโดนเจ้าเมืองจิ๋วมนุษย์จิ๋วนะครับ เพราะตัวโต๊ะที่ใช้วางนั้นไม่มีอะไรกั้น อันนี้ก็อยู่ที่มารยาทและความถูกต้องของแต่ละคนแล้วครับ อันไหนถ้ามันจะทำให้ของพัง หรือเสียหายก็เลี่ยงดีกว่า ..
… “Transportation and Entertainment : เมืองที่ไม่หยุดนิ่ง และความหรรษาบันเทิง” .. เมืองสองเมืองนี้จะอยู่ติดกันโดยรายละเอียดส่วนใหญ่จะไปอยู่ทางความสนุกสุขสันต์มากกว่าที่มีทั้งสนามเด็กเล่น สวนสนุก มินิคอนเสิร์ตกลางลานกว้าง และที่ขาดไม่ได้เลยคือสนามฟุตบอลที่มีแมทช์แข่งขันเป็นโมเดลจิ๋วให้เราได้ส่องจากมุมสูงไกล ๆ ด้วย …
…ลืมบอกไปว่ามนุษย์จิ๋วบางตัวที่เราเห็นก็สามารถขยับได้นะครับ ไม่ได้ยืนนิ่ง ๆ แต่อย่างเดียว จะมีบางตัวที่ขยับแขนขาเดินไปมาได้ด้วย เป็นอีกหนึ่งความเท่และความมีชีวิตชีวาที่มากขึ้น
… “Desert : เมืองแห่งทะเลทรายที่ร้อนระอุ” … เมืองนี้จะไม่ค่อยมีรายละเอียดมากเท่าไหร่ พื้นที่ไม่กว้างมากแต่ไหน ๆ มาแล้วก็ต้องหามุมถ่ายภาพกันสักหน่อย ก็จะเป็นบรรยากาศแบบแห้งแล้งกลางทะเลทรายมีแคมป์ไฟ มีเนินทราย มีรถลุย และที่จะขาดไม่ได้ก็คือต้องมีอูฐ
… “Beach : เมืองแห่งท้องทะเล” … จากภาพสุดท้ายของความเห็นนี้จะเห็นลักษณะของการวางโมเดลก็คือจะเป็นโต๊ะที่เพียงแค่เราเอื้อมมือไปก็จะสัมผัสแตะต้องกับโมเดลต่าง ๆ ได้แล้ว .. ซึ่งตรงนี้ก็คือสิ่งที่เราไม่ควรทำไม่ควรไปจับหรือสัมผัสโยกย้ายใด ๆ .. วันที่ผมมาเจอคณะเด็ก ๆ มาทัศนศึกษาเข้าไปหลายกลุ่ม ก็ซนกันหลายอยู่นอกจากคุณครูที่ตามมาด้วยแล้วยังต้องมีเจ้าหน้าที่พนักงานคอยตามประกบเพื่อคอยให้ความรู้ และระวังว่าจะไปทำทรัพย์สินเสียหายด้วย .. ดังนั้นใครพาลูกพาหลานมาก็ต้องระวังกันด้วยนะครับ
… “Snow Port : เมืองท่าสีขาว” … โซนนี้จะเป็นทั้งเมืองหิมะสีขาวโพลนแล้วเชื่อมต่อไปยังเมืองท่าริมน้ำด้วย รายละเอียดเมืองนี้จึงมีค่อนข้างเยอะ ส่วนที่น่ารัก ๆ ก็อาจจะเป็นบริเวณสีขาวโพลนของหิมะบ้านเรือนผู้คนในช่วงฤดูหนาวนี่แหละ เดินมาแล้วรู้สึกให้ถึงความเย็น 5555 เว่อร์มาก
…สนุกดีนะครับ เดินในนี้แล้วเหมือนเราได้จดได้จ้องได้เห็นอะไรแปลก ๆ บางอย่างก็เหมือนที่เราเคยเห็นในทีวี แต่ตอนนี้เปลี่ยนมาเป็นของจิ๋วตรงหน้าเรามีเรื่องราวต่าง ๆ มากมายให้ได้เก็บภาพกลับไปดูเล่น ..
…ส่วนนี่ก็คือบริเวณเมืองท่าที่มีเรือบังคับให้เด็ก ๆ ที่สนใจสามารถบังคับเล่นได้ โดยจะมีเจ้าหน้าที่คอยยืนควบคุมและสอนวิธีเล่นอยู่ เด็ก ๆ ก็ต่อคิวรอกันเป็นแถวเลย เพราะจะได้เล่นบังคับเรือให้แล่นไปในแม่น้ำจริง ๆ ถูกอกถูกใจกันไป
…บริเวณตรงข้ามของโซนเมืองท่านี้ก็จะเป็น Bonus Table ซึ่งวันที่ผมมาเดือนกุมภาพันธ์กำลังจะสร้างบริเวณสนามบินอยู่ สร้างเสร็จไปบ้างแล้วบางส่วนแต่ก็ยังมีรายละเอียดอีกเยอะที่ยังค่อย ๆ ต่อเติมเรื่อย ๆ จึงไม่ได้ถ่ายมา .. แต่บอกได้เลยว่าอลังการมากจริง ๆ หากเสร็จแล้ว
…ผมใช้เวลาเดินในห้องจำลองโมเดลนี้ไปประมาณ 3 ชั่วโมง .. ทั้งที่พื้นที่นั้นก็ไม่ได้ใหญ่อะไรมากให้เทียบก็อาจประมาณ 7-11 ใหญ่ ๆ สักห้องนึง .. แต่อย่างที่บอกไปว่าเราสามารถเดินได้เพลิน ๆ เดินทั้งวันก็ได้นะครับ เพราะตอนก่อนเข้ามาด้านในเจ้าหน้าที่จะปั๊มตราที่ข้อมือเรา หากเราเดินออกไปกินข้าว หรือไปดูหนังแล้วจะกลับมาเดินเล่นต่ออีกภายในวันเดียวกันก็ทำได้สบาย ๆ ..
…อย่างผมก็เดินไปรอบนึงแล้วก็เดินออกไปกินข้าว แล้วก็กลับเข้ามาถ่ายรูปเล่นใหม่ คือมันก็มีอะไรให้ถ่ายได้เรื่อย ๆ ดี เจาะมุมนี้เจาะมุมนั้นยิ่งเอาเลนส์เทเลมาด้วยแล้วยิ่งเพลิน ช่วงเลนส์ที่ผมใช้ที่ 70-200 mm ก็ช่วยให้เราสามารถซูมไปยังไกล ๆ เพื่อดึงโมเดลที่อยู่ไกลออกไปให้เราเก็บภาพได้ง่ายขึ้น
…โดยรวมแล้วผมว่าที่ Stanley MiniVenture ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่น่าสนใจไม่น้อยเลยนะครับ หากใครจะพาเด็ก ๆ ลูกหลานมาเดินเล่นชมเมืองในอีกบรรยากาศที่แปลกไปจากอะไรเดิม ๆ .. อยู่ในห้องแอร์เย็น ๆ เดินดูโซนนั้นโซนนี้ถ่ายรูปเล่นกันได้ทั้งวัน จะมีที่ต้องเป็นห่วงก็คือแค่อย่าไปเผลอโดนหรือแตะต้องโมเดลก็พอแล้วครับ เพราะเท่าที่ผมสังเกตจากวัสดุก็น่าจะบอบบางอยู่ ..
…สังเกตจากพนักงานที่คอยเดินดูสอดส่องตลอดว่ามีอะไรผิดปกติไหม รถไฟยังแล่นอยู่หรือเปล่า มีอะไรติดขัดตรงไหนพนักงานจะเดินตรวจตราอยู่เรื่อย ๆ
…ปิดท้ายที่ “Central Business District : ย่านธุรกิจหมื่นล้าน”… มีรถไฟฟ้าบีทีเอสด้วย มีตึกสูงใหญ่โซนนี้ยิ่งเป็นตอนเปิดไฟสลัวจะสวยมากเพราะสีสันของตึกจะช่วยสร้างบรรยากาศเมืองให้เห็นชัดเจนยิ่งขึ้น..
…ยังไงแล้วหากใครสนใจก็แวะมาเที่ยวกันนะครับ ผลงาน และฝีมือของคนไทยเราเองที่สร้างสรรค์ผลงานชิ้นนี้ให้เกิดขึ้นทั้งรวบรวมแนวคิดไอเดียผู้มีความสามารถด้านต่าง ๆ ทีมงานที่ช่วยกันสร้างขึ้นมาจน Stanley MiniVenture เป็นเมืองจำลองขนาด 1:87 ตามอัตราขนาดย่อส่วนที่นิยมใช้ในระดับสากล ที่สร้างขึ้นเป็นที่แรกในเมืองไทย และใหญ่ที่สุดในเอเชีย.. อย่าลืมแวะมาเที่ยวกันนะคร๊าบบบ
OFFICIAL SITE : https://www.stanleyminiventure.com/
FB PAGE : https://www.facebook.com/StanleyMiniVenture
