…สวัสดีกันอีกครั้งพร้อมออกเดินทางกันอีกแล้วกับสายการบินนกแอร์ที่มาในสโลแกนใหม่ล่าสุด “Smiling Across Asia” ที่เห็นแล้วเข้าใจได้ว่าสายการบินนกแอร์นั้นไม่ได้มีบินแต่ภายในประเทศ โดยพร้อมที่จะบินตรงสู่เมืองท่องเที่ยวต่าง ๆ ในภาคพื้นเอเชียของเรา ซึ่งเป็นที่ไหนบ้างหลายคนอาจคุ้นเคยอยู่แล้ว แต่หากให้ผมเดาเล่น ๆ จากสโลแกนน่าจะทำให้เรามีลุ้นลึก ๆ ว่าต่อไปนกแอร์จะขยับปีกเปิดรูทไหนขึ้นมาอีกบ้างก็เป็นเรื่องของอนาคตกันไป.. แต่ที่แน่ ๆ กับที่เพิ่งผ่านไปสด ๆ ร้อน ๆ ประมาณ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2559 ทางสายการบินนกแอร์ได้มีกิจกรรมดีดีที่จัดขึ้นเพื่อการกุศลหารายได้สมทบทุนมูลนิธิเด็กโรคหัวใจฯ ในโครงการ “Nok Air Ride For Life : ปั่นด้วยใจให้ด้วยระยะทาง” ซึ่งครั้งนี้จัดขึ้นที่ อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช และจะว่าไปแล้วนี่เป็นครั้งแรกของกิจกรรมปั่นจักรยานการกุศลที่ทางนกแอร์จัดขึ้นเลยก็ว่าได้ ซึ่งก็มีหลายอย่างที่แตกต่างไปจากกิจกรรมปั่นจักรยานที่ทางนกแอร์ได้เคยจัดขึ้นมาทุกครั้งก่อนหน้านี้… รายละเอียดจะเป็นอย่างไรบ้างเรามาติดตามเรื่องราวพร้อมดูภาพประกอบเพลิน ๆ กันไปพร้อมกันได้เลยครับ
*************************************
…เริ่มต้นกันเมื่อเช้าวันศุกร์ที่ 15 กรกฎาคม 2559 เหล่านักปั่น และศิลปินดาราที่มาร่วมงานนี้ก็มารวมพลกันที่ท่าอากาศยานดอนเมือง อาคารผู้โดยสารภายในประเทศ อาคาร 2 เพื่อทำการเช็คอิน และนำสัมภาระโหลดลงใต้ท้องเครื่อง และที่จะขาดไปเสียไม่ได้ก็คือจักรยานคันเก่งคู่ใจของแต่ละคน ที่แต่ละคนก็มีบรรจุมีวิธีการเก็บลงกล่อง หรือถุงผ้าตามแต่ใครสะดวกแบบไหน .. สำหรับบุคคลทั่วไปเผื่อใครจะยังไม่ทราบว่าหากเป็นสายการบินนกแอร์แล้วจะบินไปไหนขึ้นเหนือล่องใต้สามารถ “Bike Onboard For Free : โหลดจักรยานได้ฟรีกันสบาย ๆ” ติดข้อแม้ไว้สั้น ๆ ว่าท่านจะต้องแพคจักรยานลงกระเป๋าหีบห่อให้เรียบร้อยเพียงเท่านี้ก็บินไปพร้อมจักรยานคู่ใจได้แล้ว…
…ระหว่างรอพลพรรคนักปั่นมากันครบ ก็มีทีมงานสัมภาษณ์ พร้อมถ่ายรูปหมู่เป็นที่ระลึกกันสักเล็กหน่อยเอาฤกษ์เอาชัยก่อนจะออกเดินทางกันในเที่ยวบิน DD7808 เวลา 9.15 น. มุ่งหน้าสู่ท่าอากาศยาน จ.นครศรีธรรมราช
…บรรยากาศของสนามบินดอนเมืองตั้งแต่มีอาคาร 2 แยกออกมาสำหรับเที่ยวบินภายในประเทศก็ต้องบอกว่าดีขึ้นกว่าแต่ก่อนเยอะ ดูเบาสบาย ไม่แน่นอึดอัดเหมือนแต่ก่อนหน้านี้ .. แต่ก็อาจมีวุ่นวายบ้างเล็กน้อยกับการจราจรที่ติดขัดตรงด้านหน้าที่ส่งผู้โดยสาร ดังนั้นใครที่มีแพลนเดินทางกี่โมง ต้องเช็คอินก่อนล่วงหน้า 45 นาที หรือ 1 ชั่วโมงก็ว่ากันไป ก็ควรเผื่อเวลาไว้สักหน่อยเพื่อความอุ่นใจของตัวท่านเอง
…ใช้เวลาไม่นาน 10.30 น. เราก็มาถึงท่าอากาศยาน จ.นครศรีธรรมราชเป็นที่เรียบร้อย จากนั้นนักปั่น และรวมไปถึงทีมงานทุกคนก็ขนสัมภาระขึ้นรถตู้เพื่อเตรียมเดินทางไปยังที่พัก แต่ก่อนจะเข้าที่พักก็ต้องแวะเติมพลังกายกันสักหน่อยกับของดีเมืองนครฯ ร้านอาหารอร่อย ๆ ที่ “ร้านขนมจีนแม่ยายเส้นสด น้ำแกงปูม้า” ระยะทางจากสนามบินมาถึงร้านนั้นไม่เกิน 20 กิโลเมตร ขับมาไม่ถึง 30 นาทีก็ถึงเป้าหมาย.. ใครจะเดินตามรอยมาลองชิมร้านนี้ดูก็ได้นะครับ .. ผมคอนเฟิร์มว่าอร่อยจริงจัง
…ไม่ว่าจะเป็นขนมจีนน้ำแกงปูม้าที่เป็นไฮไลท์ของร้านที่เสิร์ฟพร้อมผักนานาชนิดมองกันจนตาลาย ไหนจะห่อหมก หมูปิ้ง ไก่ย่าง หรือจะเป็นของหวาน(ไม่มีในภาพครับ กินหมดไปแล้วเพิ่งนึกได้ว่าลืมถ่าย)อร่อย ๆ ทั้งนั้น…
…หลังจากเติมพลังกันไปเป็นที่เรียบร้อยก็เดินทางมุ่งหน้าเข้าสู่ที่พักบริเวณแถว ๆ หาดหน้าด่าน อ.ขนอม .. กิจกรรมในวันแรกนั้นยังไม่มีอะไรมาก เมื่อมาถึงที่พักทุกคนก็พักผ่อนกันไปใครจะเดินเล่นริมทะเลตอนบ่าย ๆ หรือจะไปหลบใต้ต้นไม้กินไอติมก็เพลินกันไปตามใจแต่ละคน .. จนถึงเวลาสักประมาณ 16.00 น. นักปั่นทุกคนก็ทยอยมาประกอบจักรยานเพื่อเตรียมความพร้อมวอร์มอัพสำหรับวันเสาร์รุ่งขึ้น…
…โดยเย็นวันแรกนี้ถือว่าเป็นการซ้อมใหญ่ก่อนวันพรุ่งนี้จะเอาจริง ซึ่งเย็นวันศุกร์ 15 นี้ก็จะยังมีแค่ทีมปั่นของนกแอร์ และเหล่าศิลปินดาราที่มาร่วมสมทบ รวมไปถึงผู้เข้าร่วมกิจกรรมท่านอื่นอีกจำนวนไม่เยอะมากเท่าไหร่ ทำให้วันนี้ทุกคนดูสบาย ๆ กับการปั่นเพราะระยะทางนั้นแค่ประมาณ 10 กิโลเมตร แต่กับการปั่นแล้วให้ชิวเพลินยังไง เรื่องความปลอดภัย และวินัยของการปฏิบัติตัวเมื่อขี่จักรยานก็ต้องมาเป็นอันดับแรก ซึ่งก็ได้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทางพื้นที่รวมไปถึงหน่วยต่าง ๆ มาช่วยประสานงานเพื่อความปลอดภัยให้สบายใจกันทุกฝ่าย
…เสียงนกหวีดดังสองล้อเริ่มหมุนตอนเวลา 17.00 น. ตรงพอดีเป๊ะ .. กับเส้นทางจากที่พัก “ชลนภา รีสอร์ท” มุ่งหน้าสู่ปลายทางที่ “ร้านอาหารทะเล ขนอมซีฟู๊ด” ที่เป็นจุดสิ้นสุดของการปั่นในเย็นวันนี้ และเป็นที่รับประทานอาหารเย็นกันชิว ๆ ริมทะเลอีกด้วย
…เส้นทางปั่น 10 กิโลเมตร ผ่านไปแบบสบาย ๆ เส้นทางที่สวยงามไปด้วยธรรมชาติที่ล้อมรอบทั้งฉากหลังที่เป็นภูเขา ต้นไม้สีเขียว ๆ ตลอดสองข้างทางสลับกับเขตชุมชนชาวบ้านที่มายืนโบกไม้โบกมือถ่ายรูปขบวนจักรยานยาว ๆ ที่ไม่ได้พบเห็นกันได้บ่อย ๆ
…เย็นวันนั้นช่วงเริ่มปั่นตอนห้าโมงเย็นแดดเริ่มเบาลงไปพอสมควรแล้ว ทำให้ทุกคนดูสดชื่นกระปรี้กระเปร่ากับการออกกำลังกายในเย็นวันนี้มาก มีบ้างที่แดดลงบางทีก็ได้ภาพสวย ๆ ติดไม้ติดมือกันมาพอสมควร
…ทีมบล็อกเกอร์ที่ร่วมเดินทางไปเก็บภาพ พร้อมสื่อวิดีโอสังกัดอื่นก็ทำหน้ากันเต็มที่ รับผิดชอบหน้าที่ของตัวเองกันไป บางคนนั่งซ้อนมอเตอร์ไซด์แวะลงจอดหามุมสวย ๆ รอจังหวะดักถ่าย บางคนก็ใช้บริการรถซาเล้งสามล้อนั่งพ่วงท้ายถ่ายวิดีโอได้มุมเจ๋ง ๆ กันไป ส่วนผมเองสิงสถิตย์อยู่ท้ายรถกระบะภาพที่ออกมาก็จะเห็นแถวเรียงจากด้านหน้าไปเป็นทิวยาว ๆ อย่างที่เห็นนี่แหละครับ
…ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีจากจุดเริ่มต้นเหล่านักปั่นก็ทยอยกันมาถึงจุดหมายปลายทางร้านขนอม ซีฟู๊ดกันเป็นที่เรียบร้อย ก็หยุดพักกินน้ำพักเหนื่อยถ่ายรูปเล่นสนุกสนานกันไปก่อน
…เห็นจากรอยยิ้มที่ทุกคนมีหลังปั่นเสร็จ แล้วก็มีความสุขครับ คือเป็นปกติของคนเราพอได้ออกกำลังกายไปแม้ร่างกายจะเหนื่อย แต่ความโล่งความสบายตัวที่ได้ปลดปล่อยมันทำให้ร่างกายสดชื่นขึ้นได้มาก แล้วยิ่งได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรักอย่างนักปั่นทุกคนในวันนี้เชื่อว่าทุกคนมีความสุขแน่นอน ..
…หลังจากพักเบรกกันจนหายเหนื่อยไปเรียบร้อย ต่อไปก็จะเป็นการเหนื่อยกับอาหารมื้อเย็นกันต่อไปเพราะงานนี้สายการบินนกแอร์ก็เลือกร้านขนอม ซีฟู๊ดให้เป็นมื้อเย็นมื้อค่ำส่งท้ายวันแรกที่ผ่านไปกับอาหารทะเลแบบจัดเต็ม เรียกว่าขนมาหมดทะเลไม่ว่าจะเป็นหอยแครง กุ้งเผา ปลาหมืก ปู ปลาทะเล และอาหารพื้นเมืองนครฯ อีก ..
…ผมเองขนาดไม่ได้ปั่นกับเค้าพอถึงมื้อเย็นปุ๊บก็จัดการไปประหนึ่งเราเป็นนักปั่นเลยก็ว่าได้ ฮา…. อาหารอร่อยรสชาติเข้มข้น ใครแวะมาเมืองนครศรีฯ มาแถวหาดหน้าด่าน ขนอม .. ลองแวะมากันได้ครับ
…แต่อิ่มอาหารเท่านั้นยังไม่พอ อาหารจะอร่อยทั้งทีนอกจากจะได้เจอเพื่อนฝูงเจอคนคอเดียวกัน การได้วิวสวย ๆ มาอยู่ตรงหน้าบอกได้คำเดียวว่า…มันลงตัวถูกไปทุกอย่าง…
…อาหารอร่อยอากาศเริ่มเบาบางลมไม่แรง แสงแดดไม่ร้อน .. มองออกไปทะเลไกล ๆ เห็นเส้นขอบฟ้านอกจากอิ่มกายแล้วสายตาก็ยังอิ่มไปด้วย
…อิ่มแล้วก็มายืนนิ่ง ๆ ริมระเบียงร้านมองไปไกล ๆ ให้เท่าที่สายตาจะเห็นได้ .. ทะเลวันนี้เงียบสงบมาก ผมเองเคยมาที่นครศรีธรรมราชแล้วครั้งหนึ่ง ครั้งนั้นปีก่อนไปที่หาดสิชล แล้วต่อด้วยหมู่บ้านคีรีวง ก็เป็นอะไรที่ประทับใจมากมาย .. มาวันนี้ได้มาเยือนเมืองนครศรีฯ อีกครั้งก็รู้สึกดีใจไม่ต่างกัน
…ผ่านพ้นไปกับวันแรกตั้งแต่เช้าที่สนามบินดอนเมืองลงเครื่องเมืองนครฯ แวะกินขนมจีนเข้าที่พักนอนพักผ่อนตกเย็นมาทำกิจกรรมปั่นซ้อมก่อนวันจริงปิดท้ายด้วยอาหารทะเลอร่อย ๆ เป็นอีกหนึ่งวันเดินทางที่ความสุขมาพร้อมกับหน้าที่การงาน และมิตรภาพ.. นอนหลับฝันดีเตรียมลุยสำหรับวันรุ่งขึ้นต่อเลย
…เช้าตรู่วันเสาร์ที่ 16 กรกฎาคม 2559 เริ่มต้นกันที่ “ขนอม โกลเด้น บีช : Khanom Golden Beach” ที่พักติดชายหาดหน้าด่านที่เป็นจุดเริ่มต้นของกิจกรรมในวันนี้ .. ชมภาพกันไปสบาย ๆ ได้เลยส่วนใครอยากทราบว่าโครงการปั่นกิจกรรมปั่นจักรยานครั้งนี้มีที่มาที่ไปอย่างไร ผมจะเล่าไปเรื่อย ๆ นะครับ
…กิจกรรมนี้ “ปั่นด้วยใจให้ด้วยระยะทาง : Nok Air Ride For Life”… นั้นเป็นโครงการที่ทางสายการบินนกแอร์ได้เริ่มตัวกิจกรรมนี้มาก่อนงานจะเริ่มขึ้นสักระยะหนึ่งแล้วโดยมีวิธีการสมัคร และร่วมบริจาคผ่านหน้าเวปไซท์ http://rideforlife.nokair.com ตั้งแต่วันที่ 1-30 มิถุนายน 2559 ก่อนงานปั่นจะเริ่มอีกครึ่งเดือนถัดมา โดยวิธีการบริจาคนี้จะไม่ใช่แค่สมัครจ่ายเงินแล้วก็จบไป แต่เป็นวิธีการบริจาคที่เรียกกันว่า “Pledging” คือผู้ที่สมัครเข้าร่วมจะเป็นตัวแทนในการเชิญชวนบอกต่อ และรวบรวมเงินบริจาคจากคนในชุมชน หรือจากใครก็ได้ที่สนใจแล้วก็จะนำกลับมายังผู้จัดกิจกรรม .. สำหรับผมแล้ววิธีนี้ที่ว่าน่าสนใจมากตรงที่คิดภาพง่าย ๆ ขอยกตัวอย่าง เช่น นักปั่นท่านหนึ่งชอบผลงานของหมอล็อตพอหมอล็อตเข้าร่วมกิจกรรมหมอล็อตก็จะไปบอกกล่าวเชิญชวนบอกต่อคนที่ชื่นชอบในตัวหมอล็อตก็จะมาร่วมทำบุญทำกิจกรรมด้วย โดยมีหมอล็อตเป็นเหมือนแม่เหล็กในการดึงดูด ส่วนใครที่ชอบนักปั่นท่านนี้ก็จะมาร่วมบริจาคด้วยอีกทีเพราะเปรียบเสมือนแฟนคลับท่านนี้ .. พอนึกภาพกันออกแล้วใช่ไหม… ซึ่งวิธีนี้ในต่างประเทศหลายประเทศก็ได้รับความนิยมมากเช่นกัน
…ส่วนที่มาที่ไปรายละเอียดจุดประสงค์ของโครงการนี้ก็คือเพื่อสร้างสรรค์สังคม หารายได้สมทบทุนมูลนิธิเด็กโรคหัวใจในพระอุปถัมภ์ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยานิวัฒนากรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์
…เรียกว่างานนี้เราสามารถช่วยน้อง ๆ เด็ก ๆ เหล่านี้ให้มีชีวิตที่สวยงาม และดียิ่งขึ้น.. ผ่านน้ำใจของพวกเรากันคนละเล็กละน้อยจากน้ำใจก็กลายเป็นสายธารขนาดใหญ่ที่ส่งตรงสู่สังคมเราได้ง่าย ๆ เลยครับ…
…แล้วพิธีเปิดโครงการอย่างเป็นทางการก็มาถึง..
…เวลาดีที่ 7.30 น. ขบวนจักรยานก็เริ่มออกจากจุดเริ่มต้นเส้นทางหาดหน้าด่าน(โรงแรมขนอมโกลเด้นบีช) > วงเวียนปลาโลมา > สะพานคลองบางแพง > อ่าวแขวงเภา > บ้านน้ำโฉ > บ้านควนทอง > หาดหน้าด่าน(โรงแรมขนอมโกลเด้นบีช) เบ็ดเสร็จระยะทางที่ 50 กิโลเมตร .. ใครจะเอาเส้นทางนี้ไปปั่นทดสอบสมรรถภาพก็ได้นะครับ แต่เลือกเวลาเย็น ๆ หน่อยก็ดีครับ เพราะถ้าเป็นกลางวันอาจร้อนเกินไป
…เริ่มต้นของการปั่นในเช้าวันนี้อากาศดีมาก ท้องฟ้าแจ่มใสปลอดโปร่งให้ทุกส่วนทุกฝ่ายสบายใจได้ว่างานดีดีแบบนี้ไม่มีอุปสรรคอะไรมาขวางเราแน่นอน
…และอีกสิ่งหนึ่งที่ผมเองกล้ายืนยันได้เต็มปากคือเรื่องมาตรการรักษาความปลอดภัย และการดูแลคุมเข้มของเจ้าหน้าที่ที่ผมกล้าบอกได้ว่าทางสายการบินนกแอร์เอาใจใส่เรื่องนี้มาเป็นอันดับหนึ่งโดยตลอด เพราะหลายทริปแล้วที่ผมได้มีโอกาสไปเก็บภาพงานปั่นให้กับนกแอร์ จะเห็นว่าทุกคนจะคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นลำดับแรก เพราะกิจกรรมที่ทำด้วยหัวใจเหล่านี้คำว่าที่หนึ่งนั้นไม่ได้มีแค่คนเดียว แต่คือทุกคนที่เข้าร่วมกิจกรรม เรื่องจะปั่นช้าปั่นเร็วถึงที่หมายก่อนหรือหลังอันนี้อยู่ที่ร่างกายของแต่ละคน แต่เรื่องจิตใจที่ทุกคนมาร่วมงานกุศลแบบนี้ต่างหากที่ผมว่าสำคัญกว่า
…เส้นทางปั่นนั้นเราผ่านทั้งธรรมชาติสองข้างทางวิว และทัศนียภาพก็เปลี่ยนไปเรื่อย .. ตัวนักปั่นจำนวน 1,000 คนตีไปกลม ๆ พร้อมใจกันปั่นเรียงเป็นแถวยาวกันอย่างเป็นระเบียบ มีบ้างที่อาจหลุดแถวกันไปแต่ก็ยังไม่ทิ้งกัน ตลอดเส้นทางนอกจากจะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลเรื่องการจราจรให้แล้ว ก็ยังมีรถพยาบาลที่ขับประคองตามอยู่ตลอดเวลาไว้เผื่อกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน ..
…ตัวผมเองยืนอยู่บนท้ายรถกระบะเพื่อเก็บภาพจะเห็นวิวสูงขึ้นอีกนิด และที่สำคัญคือเหมือนนั่งดูรายการปั่นจักรยานสด ๆ ผ่านหน้าจอทีวีเลยก็ว่าได้ เพราะฉากหลังของนักปั่นนั้นเปลี่ยนไปเรื่อยตามภูมิประเทศของหาดหน้าด่าน.. เรียกว่าหน้าจอทีวีเปลี่ยนไปไม่ซ้ำกันเลย
…งานนี้อย่างที่ได้บอกไปว่ามีศิลปินดารามากันครบทุกรุ่นตั้งแต่สมัยที่ผมเองยังเองเรียนหนังสืออยู่ วันนี้ก็ได้เจอกับ พี่เอ็กซ์ ไฮแจ๊ค / พี่โชคชัย เจริญสุข 2 นักร้องจากค่ายอาร์เอส .. คุณวิน Squeez Animal แล้วยังมีเหล่าน้อง ๆ จากทาง GMM Channel รวมไปถึง ป๋อมแป๋ม(เทยเที่ยวไทย) ที่มาช่วยสร้างสีสันให้กับทริปนี้ได้มาก (นางน่ารักมากครับ ผมคอนเฟิร์มว่าแอบหลงรัก 555)
…นอกไปจากสายบันเทิงก็ยังมี นายสัตวแพทย์ภัทรพล มณีอ่อน บอกแบบนี้หลายคนที่รู้จักคงกรี๊ด แต่บางคนอาจไม่รู้จักแต่ถ้าเอ่ยชื่อ “หมอล็อต” เชื่อว่าหลายคนคงคุ้นหูกันดี ก็ให้เกียรติมาร่วมแจมงานนี้ด้วย
…ปิดท้ายด้วยนักปั่นระดับแถวหน้าของเมืองไทย “เดอะกุ่ย” พิงค์แพนเตอร์ไทยแลนด์ ปั่นที่ไหนทั้งเมืองไทยเมืองนอกก็จะไปพร้อมเอกลักษณ์ชุดสีสันสีชมพู.. ล่าสุดเมื่อต้นปีที่ผ่านมาเขาคือตัวแทน “หนึ่งเดียวของเอเชีย” เข้าร่วมการแข่งขัน สโนว์ ไบค์ เฟสติวัล 2016 ที่สวิตเซอร์แลนด์ จนได้รับรางวัล “นักปั่นสร้างสีสันและสร้างแบรนด์ยอดเยี่ยม” คว้ากลับเมืองไทยสร้างชื่อเสียงกันไป
…เราผ่านทั้งเส้นทางธรรมชาติ และเขตชุมชน .. ผ่านธรรมชาติก็จะเป็นอะไรที่เงียบ ๆ ยิ่งตรงที่มีต้นไม้ขนาบสองข้างทางบอกได้คำเดียวว่าร่มรื่น และจะรู้สึกเย็นขึ้นมาทันที .. พอช่วงไหนผ่านเขตชุมชนก็แน่นอนว่าเจอกับชาวบ้านที่มายืนให้กำลังใจ ถ่ายรูปนักปั่น ยืนตะโกนทักทายโบกไม้โบกมือให้ยิ้มให้ .. เห็นแล้วชื่นใจดีครับ
…เวลาผ่านไปถึงประมาณ 10 โมงกว่านักปั่นทั้งหลายก็เริ่มทยอยถึงจุดหมายปลายทางที่โรงแรมขนอมโกลเด้นบีชกันเป็นที่เรียบร้อย .. ตลอดระยะเวลาตั้งแต่ออกสตาร์ท 7.30 น. ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง ระยะทาง 50 กิโลเมตร แวะพักเบรก 2 จุด กับจำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม 1,000 กว่าคน บอกได้เลยว่าทุกแรงใจทุกเหงื่อทุกหยดวันนี้ส่งตรงถึงน้อง ๆ ที่อยู่ในมูลนิธิเด็กโรคหัวใจอย่างแน่นอน…
…ผ่านพ้นไปกับงานช่วงเช้าก็มาต่อกันที่งานเย็นกับ “งานขนอม เฟสติวัล 2016” งานนี้จัดเต็มแสงสีเสียง ณ หาดหน้าด่านกันตั้งแต่ 17.00 น. ไปยาว ๆ ถึงเกือบตี 2 .. เรียกว่าครึกครื้นกันให้สุด ๆ เลยงานนี้
…งานนี้ผมมาเดินเก็บภาพตั้งแต่ตอน 4 โมงเย็น แดดกำลังดีเลยครับเบาแบบแรง ๆ 5555 ก็เดินถ่ายเก็บสีสันบรรยากาศภายในงานไปเรื่อยทั้งจุดจำหน่ายอาหาร บูธเครื่องดื่ม กิจกรรมต่าง ๆ สนุก ๆ ที่สินค้าแต่ละประเภทพร้อมใจกันมาสร้างรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะให้กับงาน
…และแน่นอนครับงานนี้นกแอร์ก็จัดเต็มไม่แพ้งานปั่นเมื่อเช้าที่ผ่านไป เพราะนอกจากจะขนของที่ระลึกมาให้ผู้ที่มางานได้ร่วมเล่นกิจกรรมได้ของฝากติดไม้ติดมือกลับบ้านกันไปแล้ว ภายในงานยังมีแจกตั๋วเครื่องบินกันอีกด้วย… เรียกว่างานนี้ขนมากระหน่ำที่หน้าหาดหน้าด่านกันเลย
…และแล้วเวลาแห่งความสนุกสนานระลอกแรกก็เริ่มขึ้นกับกิจกรรมเล่นปาสีกันก่อนที่คอนเสิร์ตจะเริ่มขึ้น งานนี้มาในธีมเสื้อขาวตามคอนเซปท์ที่แจ้งไว้สำหรับผู้เข้าร่วมก็เพื่อให้มาสนุกมาเปื้อนมาเปรอะสีสันเข้าสโลแกน “Khanom Festival 2016 Tropicolor”
…เป็นกิจกรรมสนุก ๆ ที่ผมว่าช่วยสร้างสีสันให้กับงานได้มากเลย เห็นได้จากรอยยิ้มเวลาแต่ละคนหน้าตาเปรอะ ๆ กันแล้วดูน่ารัก ดูสดใสกันมากขึ้นไปอีกเป็นกอง…
…และแล้วช่วงเวลาที่ทุกคนรอคอยก็มาถึงกับศิลปินนักร้องคนแรกที่มาเปิดงานขนอม เฟสติวัล 2016 ก็คือ “เบน ชลาทิศ” ที่มาพร้อมเสียงนุ่ม ๆ และเพลงเพราะ ๆ มากมาย .. ร้องไปก็ยิ้มไป จบเพลงก็เล่นมุกฮากันกระจายสไตล์สาว ๆ น่ารักดีครับ..
…ผมเองเคยถ่ายคอนเสิร์ตของคุณเบน ชลาทิศมาประมาณ 2 ครั้ง .. เห็นเลยว่าคนนี้นอกจากเสียงดีแล้วยังเป็นนักเอนเตอร์เทนเนอร์ที่ไหวพริบดี และมีลีลาความฮาที่ไม่ว่าใครได้ยินได้ฟังก็อดอมยิ้มเสียไม่ได้…
…จากแนวป๊อบผ่านไปฟ้าเริ่มค่ำมืดให้เข้ากับบรรยากาศช่วงหัวค่ำก็มาพบกับศิลปินท่านต่อไป คุณวิน แห่งวง Squeez Animal ที่มาพร้อมกีต้าร์ตัวเก่ง และเพลงแนว ๆ ฟังตามกันไปร้องตามกันไปถูกใจวัยรุ่นวัยซนทั้งหลายที่ร้องตามขยับปากตามกันไปแบบชิว ๆ
…ถัดไปสู่ศิลปินลำดับที่ 3 ที่ต้องบอกว่าเกิดเป็นวัยรุ่นยุคนี้ต้องรู้จักวงนี้แน่นอนกับ “Getsunova” เจ้าของสถิติยอดวิว 220 ล้านกับเพลง “ไกลแค่ไหนคือใกล้” ที่ขนเพลงฮิตแบบที่คนไม่เคยฟังก็ต้องเคยผ่านหูกันบ้าง ส่วนคนที่เคยฟังรับรองไม่มีพลาดทั้งร้องทั้งเต้น Getsunova จัดให้แบบไม่อั้น…
…เพลงเร็วก็โยกเต้น เพลงช้าก็หวานซึ้งระทวยอินเนอร์กันไป… เป็นอีกศิลปินที่ผมประทับใจเกินที่คาดไว้จริง ๆ กับน้อง ๆ กลุ่มนี้…
…จากนั้นก็มาพักเบรกกับช่วงเวลาแห่งความสุขอีกรูปแบบกับการแจกของรางวัลต่าง ๆ ทั้งเสื้อยืด ของที่ระลึกรวมไปถึงตั๋วเครื่องบินไปกลับที่นกแอร์หีบติดมาแจกกับผู้เข้าร่วมงานนี้ เรียกว่าได้สนุกแล้วก็ได้ของรางวัลติดไม้ติดมือกลับไปอีก
…จากนั้นก็คือการประกาศสรุปยอดรวมกับโครงการปั่นด้วยใจให้ด้วยระยะทางที่ตลอดระยะเวลาหนึ่งเดือนที่ผ่านมาได้มีกิจกรรม Pledging ร่วมกันกับผู้ที่บริจาคกันมามากมายให้แก่มูลนิธิเด็กโรคหัวใจฯ ซึ่งยอดบริจาคนั้นอยู่ที่ 460,872.- ที่จะมอบให้มูลนิธิต่อไป.. ได้บุญ ได้น้ำใจ ผ่านพ้นไปเรียบร้อยก็มาสนุกสุดเหวี่ยงกับอีก 3 ศิลปินที่เหลือกันต่อก่อนจะจบงานในค่ำคืนนี้
…มาเต้นมาแดนซ์มาซึ้งกันต่อกับวงถัดไป “Klear” นักร้องสาวเสียงดีที่มาพร้อมกับเสียงเพลงเพราะ ๆ เพลงคัฟเวอร์จากหลายศิลปินที่วงนี้นำมาร้องก็กลายเป็นที่ติดหูกันไปอีกรอบไม่ว่าเพลงไหน ๆ ออกมา.. งานนี้คนดูที่มาในงานสามารถร้องตามกันได้แทบทุกเพลงตั้งแต่ศิลปินแรกจนถึงตอนนี้
…เท่านี้ยังไม่พอยังเหลือวงดนตรีที่ไม่มีใครไม่รู้จักแน่นอน… ว่าแล้วก็ต่อกันเลย
…ยินดีต้อนรับ และยินดีที่ไม่รู้จักกับวง “25 Hours” .. ความมันส์ไม่ต้องบรรยาย ผมเองการันตีเลยว่าวงนี้เล่น และร้องได้สนุกเต็มที่มาก ทั้งเพลงช้าที่แสนเศร้า เพลงเร็วก็ชวนโยกย้ายส่ายเอว.. ไหนจะพลังเสียงความแหลมของนักร้องที่แหลมสมชื่อ แต่ไม่ว่าเพลงจะเสียงสูงเสียงแหลมแค่ไหน คนดูในงานก็ไม่หวั่นร้องตามกันจนเสียงแหบเสียงแห้งกันไป
…ผมเองขนาดว่าถ่ายภาพไปด้วยบางจังหวะยังอดร้อง อดขยับตามไม่ได้เลย 5555
…ปิดท้ายด้วย “วงโปเตโต้” ที่ขนเพลงเพราะตั้งแต่อัลบั้มเก่า ๆ มาจนซิงเกิ้ลใหม่ ๆ ที่ฮิตติดลมบนติดหูติดปากให้เราได้ยินกันบ่อย ๆ พร้อมแสงสีเสียงที่จัดเต็มบนเวทีมาตั้งแต่ช่วงหัวค่ำ … ก่อนที่สุดท้ายเม็ดฝนจะโปรยปรายลงมาเหมือนบทส่งท้ายอำลากิจกรรมแห่งความสนุกสุดมันส์ในค่ำคืนนี้ และกิจกรรมดีดีที่ผ่านไปในช่วงเช้า…
…สายการบินนกแอร์ได้จัดงานครั้งนี้ขึ้นเพื่อมอบสิ่งดีดีคืนกลับให้กับสังคมกับโครงการปั่นด้วยใจให้ด้วยระยะทาง Ride For Life และปิดท้ายด้วยงานขนอมเฟสติวัล 2016 ซึ่งก็จัดต่อเนื่องกันมาโดยตลอด 3-4 ปีให้หลัง .. ซึ่งคาดว่าไม่ช้าไม่นานนี้ทางสายการบินนกแอร์ก็น่าจะมีงานใหญ่อย่างนี้อีก และแน่นอนว่าจะเป็นงานที่สร้างรอยยิ้ม สร้างน้ำใจ และสร้างสรรค์สังคมให้สวยงามผ่านพวกเราทุกคนที่พร้อมจะสนับสนุนโครงการดีดีแบบนี้ต่อไป
เรื่อง / ภาพ : Forzanu(ฟอร์ซ่านุ) www.facebook.com/forzanufoto
ปล. อุปกรณ์สำหรับถ่ายภาพชุดนี้
• Nikon D750
• AF-S NIKKOR 14-24mm f/2.8G ED
• AF-S NIKKOR 24-70mm f/2.8G ED
• AF-S NIKKOR 70-200mm f/2.8G ED VR II